GCAP ผนึกกำลัง AO FUND รุกธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร เดินหน้าจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์ - บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำกลยุทธ์การสร้างรายได้จากธุรกิจ Non-Lending Business ให้ GCAP เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เผยว่า ทางบริษัทฯ ได้มีการกำหนดแผนธุรกิจร่วมกับ AO FUND สำหรับดำเนินธุรกิจร่วมกันในระยะยาว โดยผนึกความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ทางธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่าย แตกไลน์ธุรกิจ จัดตั้งบริษัทย่อยประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร สร้างรายได้นอกเหนือจากธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ ที่ GCAP ได้ดำเนินการมายาวนานกว่า 18 ปี
ล่าสุดที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน(PP) ให้กับ AO FUND เพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร โดยการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ก. ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจด้านการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน การจัดการกองทุนรวม การจัดการกองทุนส่วนบุคคลกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ การจัดการเงินร่วมลงทุน และการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ การจัดการเงินร่วมลงทุนภายหลังการออกหุ้นเพิ่มทุน PP ในครั้งนี้ จะทำให้ AO FUND ถือหุ้นGCAP ในสัดส่วน 19.56%, นายศาวิณ เลาเศรษฐกุล ถือหุ้น GCAP ในสัดส่วน 0.95% และ Mr. Fong Pin Jan ถือหุ้น GCAP ในสัดส่วน 0.95% โดยเงินทุนที่ได้รับจากการเพิ่มทุน PP นั้น บริษัทฯ จะนำมาจัดตั้งบริษัทย่อย 2 บริษัท เพื่อดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โดย GCAP จะถือหุ้นของบริษัทย่อยในสัดส่วน 100%
การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์สร้างรายได้จากธุรกิจ Non-Lending Business ของบริษัทฯ โดยธุรกิจหลักทรัพย์ถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและมีโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ คณะกรรมการและผู้บริหารของ GCAP มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอย่างยาวนานในการบริหารธุรกิจหลักทรัพย์ อาทิเช่น บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ จี เอฟ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ซี จี เอ็น จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ออมสิน จำกัดเมื่อได้ผนึกกำลังร่วมกับ AO FUND ซึ่งมีฐานลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอดจนมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุน จะทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จและสร้างฐานรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องได้ในอนาคต เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น
การร่วมลงทุนกับ GCAP ในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมลงทุนในระยะยาว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดตั้งบริษัทย่อย2 บริษัท ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิถุนายน 2566 ก่อนเดินหน้ายื่นเรื่องขอใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในกลางปี 2567 สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ บล. และ บลจ. ที่จัดตั้งขึ้น จะเป็นการรุกธุรกิจหลักทรัพย์ทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี GCAP เป็นฐาน โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ตั้งขึ้น จะมุ่งเน้นกลยุทธ์การนำบริษัทที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการทำ Proprietary Trading ในขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน โดยให้เงินทุนสนับสนุนแก่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงการลงทุนในตราสารหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกและจำหน่ายโดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
#GCAP #AOFUND #StockReview #SET #ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวหุ้น