eastwater พร้อมส่งคืนท่อส่งน้ำสายหลัก ขอภาครัฐเห็นการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมเป็นหลัก
นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อีสท์ วอเตอร์ เผยว่า ยืนยันให้ความร่วมมือในการดำเนินงานส่งมอบท่อส่งน้ำสายหลักตามที่กรมธนารักษ์ร้องขอมาโดยตลอด ย้ำคำนึงถึงผู้ใช้น้ำเป็นหลักหากไม่มีแผนงานการส่งมอบ- รับมอบโครงการร่วมกัน ผลกระทบจะตกอยู่กับผู้ใช้น้ำ
ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 กรมธนารักษ์ได้ส่งหนังสือการบอกเลิกการเช่า/บริหารโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง ระยะที่ 2 โดยหนังสือที่กรมธนารักษ์แจ้งมาระบุให้ อีสท์ วอเตอร์ ส่งคืนพื้นที่และทรัพย์สินในโครงการดังกล่าวให้แก่กรมธนารักษ์ ภายในวันที่ 11 เมษายน 2566 หากไม่ดำเนินการกรมธนารักษ์จะสงวนสิทธิ์ให้อีสท์ วอเตอร์ ปฏิบัติตามระเบียบที่บังคับใช้ ณ ปัจจุบัน และอนาคต พร้อมทั้งเรียกร้องค่าเสียหาย และ เงินอื่นใด (ถ้ามี) จากการที่อีสท์ วอเตอร์ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ราชการกำหนด โดยในวันที่ 22 มีนาคม 2566 อีสท์ วอเตอร์ได้ส่งหนังสือส่งให้แก่อธิบดีกรมธนารักษ์ เรื่องการโต้แย้งการบอกเลิกการเช่า/บริหารโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล - หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ - แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) การเรียกให้ส่งมอบพื้นที่และทรัพย์สินแก่กรมธนารักษ์ และการเรียกค่าเสียหาย พร้อมแจ้งข้อเสนอของอีสท์ วอเตอร์ เพื่อลดกระทบต่อผู้ใช้น้ำให้แก่กรมธนารักษ์
อีสท์ วอเตอร์ ยึดมั่น และดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อปี 2535 รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี2543 และมติคณะรัฐมนตรีอื่นที่เกี่ยวข้องให้เป็นผู้บริหารจัดการน้ำ เพื่อความมั่นคงของน้ำในภาคตะวันออก ยึดถือเป็นภารกิจหลักและคำนึงถึงเสถียรภาพ การส่งน้ำอย่างมีคุณภาพ และปริมาณน้ำที่เหมาะสมตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ใช้น้ำหรือผู้ลงทุนอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ดังนั้น การส่งมอบทรัพย์สินจึงเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาและดำเนินการร่วมกันทุกฝ่าย และจัดทำแผนงานอันเป็นที่ยอมรับร่วมกัน เพื่อให้การส่งมอบ - รับมอบทรัพย์สินเป็นไปด้วยความราบรื่น เรียบร้อย ไม่กระทบต่อผู้ใช้น้ำและสามารถให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ประสงค์จะถ่วงเวลาในการส่งมอบโครงการ แต่มีความจำเป็นต้องโต้แย้งกรมธนารักษ์ เพื่อความเป็นธรรมและยืนหยัดในความถูกต้อง และมีข้อเสนอดำเนินการตามรายละเอียดข้างต้น
เพื่อให้แน่ใจว่าการส่งมอบทรัพย์สินจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ในช่วงที่ต้องมีการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารจัดการท่อส่งน้ำของกระทรวงการคลัง หากกรมธนารักษ์ยังคงยืนยันที่จะให้อีสท์ วอเตอร์ส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำทั้งสองและดำเนินการต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 11 เมษายน 2566 โดยไม่มีแผนร่วมกันในการส่งมอบ - รับมอบอย่างเป็นขั้นตอน อีสท์ วอเตอร์ ได้แจ้งให้กรมธนารักษ์ได้รับทราบผลกระทบและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับอาจส่งผลร้ายแรงต่อธุรกิจของผู้ใช้น้ำ รวมถึงภาพรวมของระบบเศรษฐกิจในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของประเทศแล้ว หากเกิดประเด็นข้อพิพาทหรือกรณีโต้แย้งเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดผลกระทบและความเสียหายใด ๆ ต่อผู้ใช้น้ำ อีสท์ วอเตอร์ก็ถือเป็นความรับผิดชอบโดยลำพังเพียงฝ่ายเดียวของกรมธนารักษ์ โดยบริษัทฯ ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่อย่างใด
ยังยืนยันจะเร่งรัดการดำเนินการพัฒนาทั้งด้านการวางท่อและแหล่งน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อให้กลับมาเป็นWater Grid ที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยอีกครั้ง ที่ผ่านมา มีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก และมีการลงทุนเพิ่มเติมในด้านต่างๆ อาทิ สถานีสูบน้ำ ท่อเชื่อมโยง ช่วยภาครัฐประหยัดงบประมาณในการลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาทขณะนี้มีการดำเนินงานการก่อสร้าง โดยการดำเนินการดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้ระเบียบและข้อบังคับของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
#eastwater #ท่อส่งน้ำ #StockReview #ข่าวเศรษฐกิจ #รัฐบาล #ข่าวประจำวันนี้