สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชาพบอธิบดีกรมวิชาการเกษตร หารือแนวทางพัฒนาศักยภาพการปลูกพืชกัญชงกัญชาหวังผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจยั่งยืน ขณะเดียวกันเล็งจัดเวทีเสวนา เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมถกปัญหาและแนวทางแก้ไขการทำงานร่วมกันเพื่อปลดล็อคกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคและการทำงานที่ซ้ำซ้อน เพื่อให้การทำงานเชื่อมต่อแบบบูรณาการ เป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดโลกได้
นายทศพร นิลกำแหง นายกสมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา พร้อมคณะกรรมการ และดร.สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกระบี่ พรรคภูมิใจไทย เข้าพบนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับผู้ตรวจราชการกรมฯ และผู้อำนวยการกองต่างๆ เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อแนะนำสมาคมฯ รวมทั้งร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาศักยภาพการปลูกพืชกัญชงและกัญชาแบบบูรณาการ เพื่อให้สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับนโยบายของภาครัฐ
“เป็นการมาหารือกับทางอธิบดีกรมวิชาการเกษตรครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมฯ มา ซึ่งทางสมาคมฯและท่านอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันและพร้อมที่จะร่วมมือในการผลักดันให้การปลูกพืชกัญชงกัญชามีการพัฒนาศักยภาพและการทำงานชื่อมต่อแบบบูรณาการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ เพื่อส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่ยั่งยืน” นายทศพรกล่าว
สำหรับหัวข้อหลักๆ ที่หารือประกอบด้วย การนำเข้าเมล็ด, การพัฒนาสายพันธุ์, เกณฑ์การขึ้นทะเบียนรับรองที่รวดเร็ว,การรับรองมาตรฐานการปลูก รวมทั้งการกระจายองค์ความรู้เรื่องการปลูกอย่างมีคุณภาพแก่เกษตรกรทั่วไป
กรมวิชาการเกษตร แนะนำให้เกษตรกรพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกพืชกัญชงกัญชาและวิธีการจัดการต่างๆ ให้เข้าหลักเกณฑ์มาตรฐานสินค้าเกษตร (มกษ.) และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการผลิตสินค้าจากกัญชงและกัญชามีความปลอดภัยและสอดคล้องตามหลักสากล และยังสนับสนุนให้พื้นที่เพาะปลูกมีมาตรฐาน GAP เพื่อเตรียมพร้อมในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศในอนาคต
ส่วนความกังวล ประเด็นการลักลอบจำหน่ายเมล็ดพันธุ์และผลิตภัณฑ์พืชกัญชงกัญชาที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย นั้นอธิบดีทางกรมวิชการเกษตร ย้ำว่า ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่อยู่ตลอดเวลา แต่ยอมรับว่ายังมีผู้ทำผิดกฎหมายอีกเป็นจำนวนมาก และจะเพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่มากขึ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ที่ถูกต้อง โดยนายระพีภัทร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร ได้จัดทำโครงการส่งมอบความรู้ในการปลูกพืชกัญชงและกัญชาแก่เกษตรกรและผู้สนใจอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง ทั้งการร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนต่างๆ รวมถึงจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการพืชกัญชา กัญชง และกระท่อม แบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) เพื่อให้ข้อมูลและตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับพืชกัญชงและกัญชา โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทางสายด่วน 1174
ดร.สฤษฏ์พงษ์ สส. กระบี่ กล่าวเสริมว่า หลายเรื่องที่พูดคุยกันในวันนี้ มีหลายประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานอื่น ทั้งจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เอง รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข ทั้งในเรื่องข้อกฎหมายและข้อปฏิบัติที่ไม่ชัดเจนหรือซ้ำซ้อนกัน จึงอยากให้มีการพูดคุยระหว่างหน่วยงาน ซึ่ง อธิบดีกรมวิชาการเกษตร รับปาก จะเป็นเจ้าภาพในการจัดเสวนา โดยจะเชิญทั้งกรมปศุสัตว์ กรมการแพทย์แผนไทยฯ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพูดคุยถึงปัญหาและวิธีแก้ไข
นายทศพร กล่าวว่า เห็นด้วยรวมทั้งจะช่วยประสานงาน และประชาสัมพันธ์การจัดเสวนาในครั้งนี้ เพื่อประโยชน์แก่อุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชาโดยรวม ทั้งนี้สมาคมจะร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ เพื่อให้อุตสาหกรรมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สามารถเติบโตได้อย่างบูรณาการ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าจากพืชกัญชงและกัญชาที่มีความสำคัญและเป็นผู้นำในตลาดโลกในอนาคตต่อไป