ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ (หัวลาก) หมายเลขทะเบียน 70-5088 ขอนแก่น (ตัวพ่วง) หมายเลขทะเบียน 70-5567 ขอนแก่น เบรกแตกทำให้พุ่งชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย 18 คันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 21 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 บริเวณถนนมิตรภาพ ตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เบื้องต้น เลขาธิการ คปภ. ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กรบูรณาการการทำงานร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยสำนักงาน คปภ. ภาค 3 (ขอนแก่น) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ติดตามและตรวจสอบว่ารถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่ประสบอุบัติเหตุมีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นให้กับผู้ประสบภัยในครั้งนี้
ทั้งนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ว่า รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ (หัวลาก) หมายเลขทะเบียน 70-5088 ขอนแก่น ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัทไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 006D/MC00-19-000118 เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม2563 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)กรมธรรม์เลขที่05969-63102/กธ/000424-10 เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย ของบุคคลภายนอก 500,000 บาท ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก1,000,000 บาท และคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย 1,200,000 บาท สำหรับส่วนตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 70-5567 ขอนแก่น ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัทไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 001D/MC00-19-008942 เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม2563 ไม่มีการประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้แต่อย่างใดในส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 18 คัน พบว่า มีการทำประกันภัยรถภาคบังคับ(พ.ร.บ.) ไว้ จำนวน 15 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ จัดทำประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้ด้วยจำนวน 8 คัน ส่วนรถจักรยานยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายอีก 3 คัน เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยไว้
สำหรับการติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้บาดเจ็บทั้ง 21 รายนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ร่วมกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลโดยตรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยและเดินทางกลับบ้านแล้ว ส่วนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้ง 18 คัน ขณะนี้ได้มีการประเมินราคาความเสียหายของรถยนต์และรถจักรยานยนต์แต่ละคันเพื่อดำเนินการส่งซ่อมต่อไป ทั้งนี้ สำหรับความเสียหายในส่วนอื่นๆ เช่น ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ค่าขาดรายได้ เป็นต้น อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยโดยเร่งด่วนต่อไป
"สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ(ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและกรมธรรม์ประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงแลเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่สายด่วนคปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย