สคฝ. ผนึก กอช. และ กยศ. ลงนาม MoU ส่งเสริมวินัยการออม สร้างภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันภัยกลโกง

กระทรวงการคลังสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ผนึกกำลัง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สคฝ. กับ กอช. และสคฝ. กับ กยศ. เรื่อง “การส่งเสริมการออมและการคุ้มครองเงินฝาก รวมถึงความรู้ทางการเงินเจาะกลุ่มประชาชน โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษาเพื่อสนับสนุนและกระตุ้นวินัยการออม สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากและการวางแผนทางการเงิน รวมถึงรู้เท่าทันภัยทางการเงิน ปูทางสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว  

ความร่วมมือในครั้งนี้ครอบคลุมการให้ความรู้ทางการเงินและความรู้เกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วยความรู้เรื่องการออม เทคนิคออมเงินอย่างถูกวิธี การวางแผนทางการเงิน การป้องกันตนเองจากภัยกลโกงทางการเงิน และการคุ้มครองเงินฝาก ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินของตนเอง เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ผ่านช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมต่างๆ รวมถึงกิจกรรมอบรมให้ความรู้ และกิจกรรมการถ่ายทอดสาระความรู้ทางการเงินต่างๆ ผ่านความบันเทิง (Edutainment) การ บูรณาการการทำงานร่วมกันนี้ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและขยายพื้นที่การให้ความรู้ให้ครอบคลุมได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการ สคฝ. กล่าวว่า “ตลอดช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา สคฝ. ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านกระบวนการภายใน ระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ความรู้ความเข้าใจของบุคลากร เพื่อรองรับพันธกิจในการคุ้มครองผู้ฝากเงินและชำระบัญชีสถาบันการเงิน หากเกิดวิกฤต สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองประสบปัญหาจนต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต นอกจากภารกิจหลักดังกล่าวแล้ว ยังมีภารกิจที่สำคัญอีกด้านหนึ่งเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่ “พร้อมคุ้มครอง เคียงข้างคุณ” โดยการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและลดความตื่นตระหนกให้กับประชาชนผู้ฝากเงิน โดยการลงนามความร่วมมือที่ สคฝ. ได้ทำร่วมกับ กอช. และ กยศ. ในครั้งนี้เป็นหนึ่งในโครงการที่มีความสำคัญภายใต้กลยุทธ์การเสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมการเงิน อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การทำงานร่วมกันในหลากหลายมิติเพื่อประโยชน์สูงสุดของกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ให้มีความรู้พื้นฐานทางการเงินและตระหนักถึงการวางแผนการออมเงินอย่างถูกวิธีก่อนเข้าสู่วัยทำงาน”

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ กอช. กล่าวว่า กอช. ได้มุ่งสร้างฐานการออม ขับเคลื่อนบำนาญภาคประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ ที่ยังไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการจากรัฐได้วางแผนการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ และเพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญ และให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสภาพ โดยนักเรียน นิสิต นักศึกษา ออมเงินกับ กอช. เริ่มตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป เมื่อเข้าระบบการทำงานเป็นข้าราชการ มีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือพนักงานบริษัทเอกชน มีประกันสังคม สามารถออมเงินกับ กอช. ต่อเนื่อง จนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับบำนาญสองรูปแบบ คือ เงินออมขณะอยู่ในวัยเรียนจะได้รับเป็นเงินบำนาญรายเดือน ส่วนเงินที่ออมขณะอยู่ในช่วงระบบการทำงานจะได้รับเป็นเงินก้อน 

ทั้งนี้ กอช. ได้ดำเนินการสร้างการรับรู้ เสริมสร้างความเข้าใจ ให้เกิดการตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินในอนาคต รวมถึงการรู้เท่าทันภัยทางการเงิน ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน และวัยใกล้เกษียณ ให้มีการจัดสรรเงินที่ดี โดยเริ่มจากการแบ่งเงินรายรับ ใช้จ่ายหนี้สิน แบ่งเก็บออม จึงนำไปใช้สอยจับจ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งการออมกับ กอช. เป็นหนึ่งของสวัสดิการบำนาญจากรัฐในกลุ่มของอาชีพอิสระ ที่จะทำให้คุณและครอบครัว ได้มีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต 

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กล่าวว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้ร่วมมือกับสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ผู้กู้ยืม ศิษย์เก่าผู้กู้ยืม ครู อาจารย์ รวมถึงประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้เกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝากและความรู้ทางการเงินพื้นฐาน สามารถวางแผนการเงินในระยะยาว รู้วิธีการวางแผนการจัดสรรรายได้ให้เพียงพอกับรายจ่ายต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ปัจจุบัน กองทุนมีนักเรียน นักศึกษาที่ได้รับโอกาสทางการศึกษาจากกองทุนไปแล้วจำนวนกว่า 6.4 ล้านราย โดยมีผู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ระดับอาชีวศึกษา ระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโทกว่า 6 แสนราย กองทุนคาดหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน นักศึกษาในการเตรียมความพร้อมด้านการเงินหรือสร้างโอกาสเพิ่มเติมให้แก่ตนเอง ตลอดจนสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมให้กองทุนได้ตามกำหนด เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสาร และสื่อความรู้การคุ้มครองเงินฝาก การออมกับกองทุนการออมแห่งชาติและรายละเอียดการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาได้ผ่านช่องเว็บไซต์ www.dpa.or.th หรือเพจเฟซบุ๊ก สถาบันคุ้มครองเงินฝาก DPA และช่องทางการสื่อสารของ กอช. ได้ที่เว็บไซต์ www.nsf.or.th หรือเพจเฟซบุ๊ก กองทุนการออมแห่งชาติ - กอช. และช่องทางการสื่อสารของ กยศ. ได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th หรือเพจเฟซบุ๊ก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา