ILM ปี 2565 กำไรสูงสุดนับจากก่อตั้งบริษัทฯ
เสนอจ่ายเงินปันผล 0.80 บาทต่อหุ้น
ปี 2566 ตั้งเป้าขยายตัวต่อเนื่อง
ILM ประกาศผลงานปี 2565 กำไรสุทธิ 659.1 ล้านบาท สูงสุดนับจากก่อตั้งบริษัทฯ ในปี 2537 โดยเติบโต 45.4% YoY และไตรมาส 4/2565 กำไรสุทธิ 183.5 ล้านบาท เติบโต 21.6%YoY และ 20.3% QoQ สูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส นับจากไตรมาส 4/2561 รวมถึงสูงสุดนับจากเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 พร้อมเสนอจ่ายเงินปันผลรอบผลประกอบการปี 2565 หุ้นละ 0.80 บาท ต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 เมษายน 2566 เชื่อมั่นผลประกอบการปี 2566 เติบโตต่อเนื่อง
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินการไตรมาส 4/2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,470.2 ล้านบาท เติบโต 4.3% YoY และ 11.3% QoQ แม้บริษัทฯ ได้ยุติธุรกิจการจำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Power One ตั้งแต่ต้นปี 2565 โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2565 เท่ากับ 183.5 ล้านบาท เติบโต 21.6% YoY และ 20.3% QoQ ผลประกอบการปี 2565 มีรายได้รวม 9,009.0 ล้านบาท เติบโต 7.1% YoY และมีกำไรสุทธิ 659.1 ล้านบาท เติบโต 45.4% YoY โดยกำไรปี 2565 สูงสุดนับจากก่อตั้งบริษัทฯ ในปี 2537 นอกจากนี้ Index Living Mall และ Little Walk ลาดกระบัง สาขาใหม่ล่าสุดซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับดีมาก ยอดขาย Index Living Mall ทะลุเป้าหมาย ในขณะที่ Little Walk มีผู้เช่าพื้นที่เต็มทั้งหมด 100%
นางสาวกฤษชนก ชี้แจงเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรในปี 2565 ได้สูงกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มากถึง 10.6% เป็นผลจากการที่บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การขายและนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคมาโดยตลอด รวมถึงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นับจากเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 บริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องโดยล่าสุด บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับรอบผลประกอบการปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ซึ่งจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.55 บาทคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 61.3% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.20 บาท ต่อหุ้น คงเหลือที่ต้องจ่ายผู้ถือหุ้นเพิ่มอีก 0.60 บาทต่อหุ้น โดยจะนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 เมษายน 2566
แม้ยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว แต่เศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การฟื้นตัวอย่างโดดเด่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะหลังจากประเทศจีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา รวมถึงการลงทุนในประเทศที่มีทิศทางการขยายตัวได้ดี โดยแนวโน้มเศรษฐกิจเชิงบวกต่างๆ จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นผู้บริโภค และช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศให้เติบโตได้มากขึ้น ในขณะที่บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันผลประกอบการในอนาคตให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนการขยายสาขา Community Mall เพิ่มอีก 1 แห่ง คือ Little Walk กรุงเทพกรีฑา ประมาณช่วงไตรมาส 3/2566 รวมถึงแผนการขยายสาขา Index Living Mall เพิ่มเติมอีก 3 แห่ง ในช่วงระหว่างปี 2566 - 2567 ซึ่งจะช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2566 ให้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย นางสาวกฤษชนก กล่าวสรุป