TQMalpha ประกาศผลงานปี’ 65 โกยกำไร 885.5 ล้านบาท
รายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น เบี้ยประกันภัยรวมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQMalpha เผยผลประกอบการ ปี 2565 กวาดกำไรสุทธิ 885.5 ล้านบาท โดยมีรายได้ค่าบริการ 3,589.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปี 2564 เนื่องจากเบี้ยประกันภัยรวมเติบโตที่ 18,017 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมในปี 2565 เท่ากับ 3,726.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% หากเปรียบเทียบรายได้ปกติไม่รวมรายการพิเศษ รายได้รวมในปี 2565 จะเพิ่มขึ้น 8.7 % ชี้ประกันรถยนต์ยังเป็นยอดขายหลักหนุนให้เบี้ยเติบโต ขณะที่ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทุกปีทำให้ประกันภัยบ้านได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจาก TQM สามารถสร้างให้ลูกค้าตระหนักถึง ความสำคัญของประกันภัยบ้านและเข้าใจความคุ้มครองที่ครอบคลุม ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยบ้านเติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณที่ดีทำให้ประกันชีวิตทั้งแบบรายเดี่ยวและแบบกลุ่มมีแรงขายมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคเห็นความสำคัญเรื่องชีวิตและสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มองหาความคุ้มครองด้านสุขภาพของพนักงานที่มากขึ้นกว่าเดิม
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจของ TQMalpha ในปี 2565 สามารถสร้างผลการดำเนินงานออกมาได้ดี ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการทำประกันภัย โดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้า ขณะที่ประกันภัยประเภทอื่นก็เริ่มส่งสัญญาณยอดขายที่กระเตื้องขึ้น อาทิ ประกันภัยบ้าน ประกันชีวิตแบบรายเดี่ยวและแบบกลุ่ม รวมถึงประกันสุขภาพก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากการตระหนักเรื่องความเสี่ยงภัยกับปัญหาสุขภาพ ส่งผลให้ผลประกอบการปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,726.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2 % โดยเป็นรายได้จากการให้บริการ 3,589.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,898.6 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 885.5 ล้านบาท แต่หากเปรียบเทียบโดยไม่รวมกำไรพิเศษ จะเห็นว่ากำไรสุทธิปกติส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้น และความสามารถในการทำกำไรจากธุรกิจปกติ ยังอยู่ในระดับที่ดี
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่บริษัทได้มีการปรับยุทธศาสตร์ใหม่จากธุรกิจนายหน้าประกันภัยขยายสู่ธุรกิจการเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์มนั้น ธุรกิจของบริษัทในกลุ่มต่างมีการเติบโตโดยรวมไปในทิศทางที่ดี มีความร่วมมือและต่อยอดธุรกิจระหว่างกัน ทั้งนี้ธุรกิจในกลุ่มการเงิน ธุรกิจสินเชื่อโดยบริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด แม้จะเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจแต่ก็มีการเติบโตที่ดีได้รับความสนใจและสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ด้วยการต่อยอดจากฐานลูกค้าเดิมของกลุ่ม และขยายไปยังฐานลูกค้าใหม่ ๆ อีกทั้ง อีซี่ เลนดิ้ง ยังมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ มีการบริหารความเสี่ยงและบริหารลูกหนี้ได้ดี ในส่วนของธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มนั้น ถึงแม้นจะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่สำหรับธุรกิจประกัน นับเป็นการเติบโตตามแนวทางที่วางไว้ตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้ง ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัยเป็นกรรมการอิสระใหม่ของบริษัท ซึ่ง ดร.ชาติชายพยุหนาวีชัย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการเงิน มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป