กรมสรรพสามิตเตือนภัยผู้ประกอบการและประชาชนอย่าหลงเชื่อ “มิจฉาชีพ” แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกลวงหรือรีดไถเงิน แนะตรวจสอบข้อมูลก่อนทุกครั้ง
ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า “ขณะนี้ได้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดี” หรือ “มิจฉาชีพ” หลอกหลวงประชาชนในหลากหลายรูปแบบเพิ่มเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี จึงได้มอบนโนบายให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ช่วยกันเฝ้าระวังและให้ข้อมูลกับพี่น้องประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
หากผู้ประกอบการหรือประชาชนได้รับการแอบอ้างจากผู้ไม่หวังดีหรือมิจฉาชีพว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุมตรวจค้นในการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัวโดยต้องแต่งเครื่องแบบกรมสรรพสามิต พร้อมแสดงบัตรข้าราชการในขณะปฏิบัติหน้าที่ และดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบการตรวจค้นทุกประการ และเมื่อจับกุมแล้วต้องทำบันทึกจับกุม สำหรับประเด็นการเปรียบเทียบปรับ ตามระเบียบกรมสรรพสามิตว่าด้วยการเปรียบเทียบคดี พ.ศ. 2560 หมวด 2 ข้อ 8 วรรค 2 ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องเปรียบเทียบคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด สามารถไปดำเนินการเปรียบเทียบคดีนอกสถานที่ตั้งปกติของสำนักงานได้โดยใช้สถานที่ของหน่วยงานราชการอื่นแทน
ในกรณีการหลอกลวงทางโทรศัพท์ ให้ Add line หรือผ่านทางช่องทางออนไลน์ใด ๆ ตามที่ แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตนั้น ขอให้ผู้ประกอบการและประชาชนโปรดระมัดระวัง โดยสามารถตรวจสอบกลับมาที่สำนักงานสรรพสามิตภาค หรือพื้นที่ หรือกรมสรรพสามิต เพื่อความปลอดภัย
สำหรับการชำระภาษีสรรพสามิต เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียภาษี และลดค่าใช้จ่ายด้านงานเอกสาร ผู้เสียภาษีสามารถเลือกชำระภาษีสรรพสามิตได้หลายรูปแบบ อาทิ การชำระเงินด้วยบัตรเดบิต เครดิต Bill Payment QR Code Internet Banking ชำระเงินผ่าน e-Money และ Smart phone กรมสรรพสามิตขอแนะนำว่าก่อนการโอนเงินหรือทำธุรกรรมการเงินทุกครั้ง ขอให้ทุกท่านตรวจสอบให้แน่ใจ เพื่อไม่ให้เป็นช่องทางของมิจฉาชีพในการรีดไถ รวมถึงการเก็บหลักฐานต่าง ๆ ไว้เผื่อกรณีที่อาจเกิดปัญหาตามมา
กรมสรรพสามิตมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการ จึงอยากให้ทำการตรวจสอบ ให้แน่ชัดก่อนชำระภาษีสรรพสามิตหรือเสียค่าปรับทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีและมิจฉาชีพ โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 หรืออีเมล excise_hotline@excise.go.th