กสิกรไทยเดินหน้ามุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน ESG ของกลุ่มธนาคารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสานศักยภาพทั้งด้านเทคโนโลยี และพันธมิตร เพื่อช่วยให้ลูกค้า สังคม และประเทศ เติบโตอย่างยั่งยืน โดยล่าสุด กสิกรไทยได้รับการยอมรับจากดัชนีด้านความยั่งยืนระดับโลก ได้แก่ ดัชนี DJSI 7 ปีซ้อน และมีคะแนนสูงสุด 5% (Top 5%, S&P Global ESG Score 2022) ในกลุ่มธนาคาร ดัชนี CDP ที่คะแนนระดับA List ด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นธนาคารแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และดัชนี Bloomberg GEI 5 ปีซ้อน เป็นธนาคารแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน (Bank of Sustainability) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยวางกลยุทธ์การดำเนินงานอย่างเป็นระบบ เน้นการวัดผล และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส โดยความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของธนาคารได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำด้านมาตรฐานความยั่งยืนทั้งในประเทศและระดับสากลสอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) นอกจากนี้ธนาคารยังสนับสนุนความพยายามของประชาคมโลกในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายความตกลงปารีส (Paris Agreement)
ท่ามกลางความท้าทายจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งการแข่งขันในหลากหลายรูปแบบ ธนาคารยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อสร้างความสมดุลในทุกมิติ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เดินหน้าอย่างยั่งยืน เกิดผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม
ในด้านสิ่งแวดล้อม ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศ Net Zero Commitment ในปี 2564 โดยตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานของธนาคาร ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) ซึ่งนำไปสู่การปรับการทำงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Scope 1 และ 2) ด้วยการทยอยเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานและติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในพอร์ตโฟลิโอ (Scope 3) สอดคล้องตามเป้าหมายของประเทศไทย โดยจัดทำแผนกลยุทธ์การลดก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม (Sector Decarbonization Strategy) การพัฒนาบริการ Beyond Financial Solutions พัฒนาโครงการที่เป็นมากกว่าบริการทางการเงินเพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงไลฟ์สไตล์กรีนได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในปี 2565 ธนาคารให้สินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนไปแล้วกว่า 26,000 ล้านบาท และตั้งเป้าภายในปี 2030 จะสนับสนุนสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนไม่ต่ำกว่า 1-2 แสนล้านบาท
ด้านสังคม ธนาคารได้นำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีประสานความร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาบริการเพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงบริการธนาคารให้แก่คนไทยในวงกว้าง ซึ่งครอบคลุมลูกค้าใหม่ที่เข้าถึงทางการเงินยาก (Financial Inclusion) ควบคู่กับการให้ความรู้ทางการเงินและความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Financial and Cyber Literacy) การให้ความสำคัญในการดูแลพนักงานอย่างเป็นธรรม รวมทั้งการเคารพสิทธิมนุษยชนและความแตกต่างหลากหลาย และด้านธรรมาภิบาล สินเชื่อโครงการและเครดิตเชิงพาณิชย์ของลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางขึ้นไปเข้าสู่กระบวนการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ครบทั้ง 100% โดยในปี 2565 มีมูลค่ากว่า 514,652 ล้านบาท
จากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน (Bank of Sustainability) ล่าสุด กสิกรไทยได้รับการยอมรับจากดัชนีด้านความยั่งยืนระดับโลก 3 แห่ง ได้แก่
1.สมาชิกดัชนีชี้วัดความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประจำปี 2565 ทั้งในระดับโลกและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน และมีคะแนนสูงสุด 5% (Top 5%, S&P Global ESG Score 2022) ในกลุ่มธนาคาร โดยประเมินจากการจัดการที่ยั่งยืนขององค์กรทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล/เศรษฐกิจ (ESG) ซึ่งธนาคารกสิกรไทยได้รับคะแนนรวมสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มธนาคารในระดับโลก และมีคะแนนในมิติธรรมาภิบาล/เศรษฐกิจ สูงที่สุดในโลกของกลุ่มธนาคาร
2.สมาชิกดัชนีชี้วัดความยั่งยืน CDP ด้วยคะแนนระดับสูงสุดที่ A List (Leadership Level) ด้านการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ประจำปี 2565 เป็นธนาคารแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนมาตรฐานการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปิดเผยข้อมูลที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ในระดับสากล
3.สมาชิกดัชนีวัดความเสมอภาคทางเพศ Bloomberg Gender-Equality Index (GEI) ประจำปี 2023 เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน เป็นธนาคารแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการรายงานถึงความโปร่งใสในด้านความเสมอภาคทางเพศ
นางสาวขัตติยา กล่าวตอนท้ายว่า ด้วยความมุ่งหมายของธนาคารในการเป็นผู้นำด้าน ESG ของกลุ่มธนาคารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงถือเป็นภารกิจที่ธนาคารจะเดินหน้าพัฒนามาตรฐานอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการประสานศักยภาพทั้งด้านเทคโนโลยี พันธมิตรใน Ecosystem ส่งเสริมให้เกิดการลงมือทำจริงในทุกภาคส่วน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคม และประเทศ ให้เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน