UAC ปรับเป้ารายได้ยอดขายปี 62 ทะลุ 2800 ล้านบาท


นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทฯในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯมีความสามารถในการทำกำไร เป็นระยะเวลา ปีติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯถูกจัดอับดับเข้าหมวดหุ้นปัจจัยพื้นฐานแกร่งมีกำไรติดต่อกันทุกปี (อย่างน้อย 5 ปี) ในขณะเดียวกัน บริษัทฯได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ติดกันถึง ปีซ้อน (2559-2561ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่น ในการส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ รวมถึงผลักดันพัฒนานวัตกรรม ภายในองค์กร เพื่อสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบสนองเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าและคู่ค้า พร้อมกับสร้างการเติบโตขององค์กรควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนตามกรอบนโยบายหลักของบริษัทฯ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้นเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงการดำเนินงานด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล อย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา 

ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่นดังนั้นบริษัทฯ ได้พิจารณาปรับประมาณการณ์รายได้ใหม่เป็น 2,800 ล้านบาท และ EBITDA กว่า 380 ล้านบาท จากเดิมเมื่อต้นปีที่ตั้งเป้าไว้2,700 ล้านบาท และ EBITDA กว่า 350 ล้านบาท

นอกจากนี้ ด้วยยอดขายและ EBITDA ในปี 2562 ซึ่งเติบโตกว่าเป้ารวมถึงแผนการบริหารจัดการทางการเงินอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯจะลดระดับอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E)ให้อยู่ที่ระดับ 1.2 เท่า จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/2562 มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.4 เท่า ช่วยสะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงิน และยังเป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุนต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้บริษัทฯกำลังจะคัดเลือกบริษัทจัดอันดับ Rating  มาประเมินสถานะของบริษัท เพื่อเสริมความมั่นใจให้แก่นักลงทุนด้วย

กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับฐานะทางการเงินของบริษัทฯยังได้รับผลดีจากการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยในประเทศและบริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงินชั้นนำในการสนับสนุนวงเงินเพื่อใช้สำหรับการขยายกิจการในธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2563 จำนวน 400 ล้านบาท บริษัทฯได้เตรียมแผนทางการเงินเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมของบริษัทฯไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนแผนการลงทุน 3 ปี (2020 – 2022) บริษัทฯจะลงทุนต่อเนื่อเพื่อบรรลุเป้ายอดขาย 5,000 ล้านบาทในปี 2022 โดยมีกรอบการลงทุนปีละ 500 ล้านบาท