อีสท์ วอเตอร์ มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างต่อเนื่อง ปี 2566 ย้ำชัดความเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี เดินหน้าเพิ่มศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ที่สมบูรณ์ที่สุด รองรับการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า
นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า อีสท์ วอเตอร์ เดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างเต็มที่ ด้วยการก่อสร้างระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำ หนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง เพิ่มเติมอีกประมาณ 120 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำ เกิดเป็นโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ที่สมบูรณ์มากขึ้น .
อีสท์ วอเตอร์ มีแผนเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำต้นทุน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อสร้างเสถียรภาพของแหล่งน้ำดิบ อันจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้น้ำในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อผู้ใช้น้ำ อีสท์ วอเตอร์ พัฒนา และยกระดับการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้น้ำให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้น้ำแต่ละราย ให้บริการธุรกิจน้ำครบวงจรให้แก่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในและนอกพื้นที่ตะวันออกอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันอีสท์ วอเตอร์ ได้มีการนำเทคโนโลยีการผลิตน้ำอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการเกิดมลพิษ ให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำ โดยอีสท์ วอเตอร์เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเอง และเปิดให้บริการเชิงพานิชย์ในปี 2564 ระบบผลิตน้ำอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ใช้เทคโนโลยีการตกตะกอนแบบ External Sludge Return กำลังการผลิตสูงสุด 100,000 ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งเป็นระบบการตกตะกอนแบบ External Sludge Return แห่งแรก และมีกำลังการผลิตสูงสุดของประเทศไทยในปัจจุบัน เทคโนโลยีดังกล่าวยังสามารถลดค่าไฟฟ้าในการผลิตลงกว่า 1 ใน 3 เมื่อเปรียบเทียบกับระบบตกตะกอนระบบกรองทั่วไป อีกทั้งยังสามารถลดปริมาณการใช้สารเคมีในการผลิตน้ำอุตสาหกรรมรวมถึงการใช้พื้นที่ก่อสร้างน้อยกว่าระบบตกตะกอน และระบบกรองแบบทั่วไปมากกว่าร้อยละ 50
สำหรับในปี 2565 ที่ผ่านมา อีสท์ วอเตอร์ ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือ “หุ้นยั่งยืน” ประจำปี 2565 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นปีที่ 8 ติดต่อกันสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญ และความสามารถในการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล ESG โดยมีการนำแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการดำเนินธุรกิจ และมีแนวทางการบริหารจัดการที่ชัดเจน เพื่อให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างโอกาสทางธุรกิจและเกิดประโยชน์กับผู้ถือหุ้นและทุกภาคส่วนของสังคม
นอกจากนี้ ในปี 2565 อีสท์ วอเตอร์ ได้รับการรับรองจากแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต หรือ CAC เป็นหนึ่งใน 28 บริษัทที่ผ่านการต่ออายุการรับรองครั้งที่ 2 เน้นการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ยอมรับการมีส่วนร่วม และตรวจสอบได้ ที่ผ่านมา อีสท์ วอเตอร์ดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานความโปร่งใส บรรษัทภิบาล และความยั่งยืน รวมถึงการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อทุกภาคส่วน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับผลตอบแทนแก่ภาครัฐ นอกเหนือจากการชำระค่าเช่าบริหารท่อในแต่ละปีให้แก่กรมธนารักษ์ ตั้งแต่ปี 2537-2564 ซึ่งเป็นไปตามสัญญาและอัตราที่กรมธนารักษ์กำหนด รวม 588 ล้านบาทแล้ว อีสท์ วอเตอร์ มีการจัดสรรกำไรในแต่ละปี โดยได้จัดสรรปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไว้แล้ว หากคำนวณการปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภาครัฐร้อยละ 45 จะเป็นเงินจำนวนรวมประมาณ 5,500 ล้านบาท นอกจากนี้ อีสท์ วอเตอร์มีการกำหนดราคาจำหน่ายน้ำดิบที่สะท้อนต้นทุนให้ได้กำไรที่เหมาะสมต่อความสามารถในการนำไปใช้ในการลงทุนได้ต่อเนื่อง รวมถึงการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อทุกภาคส่วน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน จึงได้สนับสนุนงบประมาณด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน และสิ่งแวดล้อม กว่า 100 ล้านบาท ในช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา
นายเชิดชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรายังคงยึดมั่นภารกิจในการบูรณาการการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำดิบในพื้นที่ภาคตะวันออก เน้นความเป็นเอกภาพและเสถียรภาพ รวมถึงดูแลบำรุงรักษาระบบท่อส่งน้ำให้สามารถตอบสนองความต้องการการใช้น้ำได้อย่างเพียงพอ ทันต่อเหตุการณ์ และสามารถขยายระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในปัจจจุบันและอนาคต จึงมั่นใจได้ว่าอีสท์ วอเตอร์จะยังคงเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่อีสท์ วอเตอร์ ยึดมั่นมาโดยตลอดระยะเวลา 30 ปี”
#Easwater #อีสท์วอเตอร์ #พัฒนาทรัพยากรน้ำ #ข่าวประจำวัน #ข่าวเศรษฐกิจ