ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ประกาศ7 มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยจากพายุโพดุลจัดทำ“โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ทางธรรมชาติปี2562” กรอบวงเงิน1,000 ล้านบาท1)กรณีลูกค้าเดิมที่หลักประกันเสียหายลดภาระดอกเบี้ยเหลือ0% ต่อปีนาน4 เดือนแรก2)กรณีลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเดิมที่หลักประกันเสียหาย ให้กู้เพิ่มหรือกู้ใหม่ดอกเบี้ยพิเศษ3.00% ต่อปีนาน3 ปี3)กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย และกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้สามารถขอประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน1 ปี4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ย0% ต่อปีนาน4 เดือนแรกไม่ต้องชำระเงินงวด4)กรณีได้รับผลกระทบด้านรายได้ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน1 ปีอัตราดอกเบี้ย1% ต่อปี5)กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ย0.01% ต่อปี6)กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ให้ปลอดหนี้และ7)ลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันภัยอัคคีภัยรวมถึงประกันภัยธรรมชาติรับค่าสินไหมเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ(Fastrack) 15,000 บาทหรือตามความเสียหายจริงสูงสุดไม่เกิน20,000 บาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่าตามที่หลายจังหวัดโดยเฉพาะ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ“โพดุล” ซึ่งมีผลทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งและยังอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากจนส่งผลให้ที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบในด้านรายได้และการประกอบอาชีพธนาคารอาคารสงเคราะห์ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจึงได้ประกาศมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าประชาชนที่ประสบอุทกภัยรวมถึงมาตรการฟื้นฟูภายหลังน้ำลดระดับลงด้วย“โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี2562”ภายใต้กรอบวงเงินรวม1,000 ล้านบาท โดยพิจารณาตามระดับความเสียหายซึ่งมีรายละเอียดประกอบด้วย
มาตรการที่1 สำหรับลูกค้าเดิมของธอส. กรณีหลักประกัน(ที่อยู่อาศัยที่จดจำนองกับธนาคาร) ของตนเองหรือ คู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบอุทกภัยสามารถขอลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวดผ่อนชำระเดือนที่1-4 อัตราดอกเบี้ย0% ต่อปีเดือนที่5-16 อัตราดอกเบี้ย4.125% ต่อปีเดือนที่17-24 อัตราดอกเบี้ย4.625% ต่อปีปีที่3 อัตราดอกเบี้ย5.625% ต่อปีและปีที่4 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้กรณีลูกค้าสวัสดิการดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปีกรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไปดอกเบี้ยเท่ากับMRR-0.50% ต่อปีกรณีกู้เพื่อชำระหนี้หรือซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกฯดอกเบี้ยเท่ากับMRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยMRR ธอส. อยู่ที่6.625% ต่อปี)
6
มาตรการที่2สำหรับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเดิมของธอส. ที่หลักประกันของตนเองหรือคู่สมรสได้รับความเสียหายจากการประสบอุทกภัยสามารถขอกู้เพิ่มหรือกู้ใหม่เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนหลังเดิมหรือกู้ซ่อมแซมอาคาร ที่ได้รับความเสียหายคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่3.00% ต่อปีนาน3 ปีหลังจากนั้นกรณีลูกค้าสวัสดิการ คิดอัตราดอกเบี้ยMRR-1.00% ต่อปีส่วนลูกค้ารายย่อยคิดอัตราดอกเบี้ยMRR-0.50% ต่อปี สำหรับลูกค้าผู้ที่ต้องการยื่นกู้ตามมาตรการที่2 ธนาคารกำหนดวงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน1 ล้านบาท ต่อ1 หลักประกันและยังยกเว้นค่าธรรมเนียมในรายการที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยค่าตรวจสอบหลักประกัน ค่าประเมินราคาหลักประกันค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ค่าธรรมเนียมการขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมการขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการกู้
มาตรการที่3ลูกหนี้ที่หลักประกันได้รับความเสียหายและกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ให้ลูกหนี้ประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน1 ปี4 เดือนคิดอัตราดอกเบี้ย0% ต่อปีนาน4 เดือนแรกโดยไม่ต้องชำระเงินงวดจากนั้นเดือนที่5-16 อัตราดอกเบี้ย1% ต่อปีโดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือนและเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้ลูกหนี้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่4ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน1 ปีอัตราดอกเบี้ย1% ต่อปีโดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือนและเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ให้ลูกหนี้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้
มาตรการที่5ลูกหนี้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรให้ผ่อนชำระโดยใช้อัตราดอกเบี้ย0.01% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือตามสัญญากู้
มาตรการที่6กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคารและให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น
มาตรการที่7พิจารณาสินไหมเร่งด่วน(Fastrack) สำหรับลูกค้าที่ทำกรมธรรม์ประกันภัยอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติรวมถึงกรณีน้ำท่วมหรือลมพายุพิจารณาจ่ายค่าสินไหมให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ประสบภัยทุกรายอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ15,000 บาทและหากประเมินความเสียหายของที่อยู่อาศัยแล้วพบว่าสูงกว่า15,000 บาทหรือมีน้ำท่วมตัวที่อยู่อาศัยตั้งแต่100 เซนติเมตรขึ้นไปลูกค้ามีสิทธิ์ได้รับค่าสินไหมตามจริงแต่ไม่เกิน20,000 บาท
ทั้งนี้ลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการของ“โครงการเงินกู้ที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติปี2562”สามารถติดต่อได้ที่สาขาของธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถึงภายในวันที่30 ธันวาคม2562 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000หรือ www.ghbank.co.th และFacebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์