ก.ล.ต. ร่วมประกาศเจตนารมณ์และลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ร่วมกับ 13 หน่วยงาน ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สิ นครูและบุคลากรทางการศึกษา สนับสนุนองค์ความรู้ ให้คำแนะนำแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาด้านการวางแผนและการรักษาวินัยทางการเงิน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตนเอง และไม่ตกเป็นเหยื่อภัยกลโกงลงทุน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ
ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) รวม 13 หน่วยงาน ลงนามใน MoU เรื่อง การดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ครูและบุคลากรทางการศึกษามีสภาพคล่องในการชำระหนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ได้รับการดูแลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างทั่วถึงและเป็นระบบ มีการพัฒนาระบบบริหารทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล และเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านการวางแผนและการรักษาวินัยทางการเงิน
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโดยการสนับสนุนข้อมูลบุคลากร หรือวิทยากร ในการให้ความรู้ คำปรึกษาและคำแนะนำ แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้านการวางแผนและการรักษาวินัยทางการเงิน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มโอกาสไปสู่การลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตนเอง และไม่ตกเป็นเหยื่อภัยกลโกงลงทุน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบูรณาการ และประสานความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดกิจกรรมตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา
ด้วยสำนักงาน ก.ล.ต. มีแผนยุทธศาสตร์ที่มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันการถูกหลอกลงทุนและติดอาวุธความรู้การจัดการเรื่องการเงินการลงทุน ให้ผู้ลงทุนปรับตัวได้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรอบด้าน หรือ financial resilience เพื่อให้มีเงินพอใช้ยามเกษียณ โดย ก.ล.ต. พร้อมเดินหน้าร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”
สำหรับขอบเขตความร่วมมือของหน่วยงานร่วมลงนามจะมีหน้าที่และความรับผิดชอบแตกต่างกันไปตามภารกิจของหน่วยงานร่วมลงนามทั้งหมด 13 แห่ง ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มีกำหนดระยะเวลาความร่วมมือ 1 ปี นับแต่วันที่ได้ลงนามร่วมกัน