CBG SAPPE OSP ICHI นำกลุ่มเครื่องดื่มปรับตัวขึ้น หลังจากราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับตัวลดลง โบรกฯ ชี้เป้าเล่นสั้นเก็งกำไรได้
ปัจจุบันธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักจากชาวต่างชาติมากขึ้น โดยเครื่องดื่ม SAPPE ได้มีการจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเติบโตขึ้น คาดกำไร Q4/65 จะออกมาดีอยู่ที่ 145 ลบ. การบริโภคที่ฟื้นตัวโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ และต้นทุนวัตถุดิบที่คาดว่าจะลดลงตั้งแต่ Q1/66 เป็นต้นไปเนื่องจากคาดว่าราคาเม็ดพลาสติก PET จะกลับมาสู่ระดับปกติซึ้งคิดเป็นประมาณ 30% ของต้นทุนขาย (COGS) รวมถึงค่าระวางเรือปรับลงตามลำดับ โดย บล. กสิกรแนะนำซื้อหุ้น SAPPE โดยให้ราคาพื้นฐาน 51.50 บาท
เมื่อวันที่ 6 ม.ค 66 ราคาหุ้น CBG ปรับตัวขึ้น 4.75%
มาอยู่ที่ 99.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท โดยเปิดตลาดที่ 94.75 บาท ราคาปรับตัวสูงสุดที่
99.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 94.75 บาท
และในวันเดียวกัน หุ้น OSP ปรับตัวขึ้น 5.36% มาอยู่ที่ 29.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท โดยเปิดตลาดที่ 28.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 29.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 28.00 บาท
นักวิเคราะห์ฝ่ายวิจัยจาก บล.หยวนต้า เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบมจ.โอสถสภา (OSP) และบมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) ปรับตัวขึ้นนำกลุ่มเครื่องดื่ม เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจากราคาก๊าซธรรมชาติ ที่ถือเป็นต้นทุนหลักของบริษัทปรับตัวลง ทำให้เห็นการฟื้นตัวของกำไรมากขึ้นในครึ่งปีหลังของปี 66 และยังได้รับอานิสงส์การบริโภคที่สูงขึ้นจากจีนเปิดประเทศ ทำให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนในมากขึ้นจากช่วงก่อนหน้า
สำหรับราคาหุ้นค่อนข้างเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว โดย OSP ให้ได้ที่ 26.50 บาท และ CBG ให้ไว้ที่ 95.50 บาท ไม่แนะนำหากต้องการถือระยะยาว แต่ในระยะสั้นนี้หาจังหวะเก็งกำไรได้
บล.
ฟินันเซีย ไซรส คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 ของบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป
จำกัด(มหาชน) จะทำกำไรสูงสุดในรอบ 6 ปี อยู่ที่ 168 ล้านบาท
แม้เทียบไตรมาสก่อนหน้ากำไรจะลดลงเนื่องจากเป็นไปตามฤดูกาล สินค้าใหม่ Tansansu ได้รับผลตอบรับดีเป็นตัวหนุนทำกำไร
ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2566 เป็น 12.50 บาท