คณะกรรมการบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มีมติแต่งตั้งนายบัณฑิต ธรรมประจำจิต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิศวกรรมเคมี (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทด้านวิศวกรรมเคมีขั้นสูง (Distinction), Imperial College, University of London ประเทศอังกฤษ และ ปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ (SASIN) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้ผ่านการอบรมในหลักสูตรสำคัญที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ เช่น หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 63 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.) รุ่นที่ 14 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่นที่ 27 เป็นต้น
CEO ท่านใหม่ ถือเป็นลูกหม้อที่ทำงานกับ ไทยออยล์ มานานกว่า 31 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เริ่มทำงานในตำแหน่งวิศวกรผลิต (Technologist) ต่อมาในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2540 – 2545 ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานกับบริษัท Shell Global Solutions International B.V.ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีการกลั่นน้ำมัน โดยให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่โรงกลั่นน้ำมันในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน สาธารณรัฐเช็ก อาร์เจนตินา สิงคโปร์ บรูไน และ ไทย เป็นต้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคนไทยไม่กี่คนที่ได้รับมอบหมายภารกิจนี้ก่อนจะกลับมาทำงานที่ ไทยออยล์ ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ด้านไฮโดรคาร์บอน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมอันดับต้น ๆ ของประเทศ จึงได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมให้สามารถสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงทางพลังงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มโรงกลั่นในระดับภูมิภาค
นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต จะเข้ามาเป็นผู้นำองค์กร มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์มธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ ให้สอดรับกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงานเพื่อให้กลุ่มไทยออยล์เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน และบรรลุวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน”