โดยทริสเรทติ้งมองว่า บทบาทของธนาคารออมสินในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเป็นช่องทางให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากภาครัฐ ให้แก่กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ภาคอุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่ได้รับผลกระทบ ผ่านโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โครงการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบการ รวมถึงมาตรการผ่อนปรนต่าง ๆ เช่นมาตรการพักชำระหนี้ และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เป็นต้น ซึ่งจนถึงเดือนตุลาคม 2565 ธนาคารได้ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และผู้มีรายได้น้อยเป็นจำนวนมาก ผ่านมาตรการและโครงการต่าง ๆ รวม 47 โครงการ สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ถึง 13 ล้านคน ปล่อยสินเชื่อได้รวม 6.8 ล้านราย เป็นเงิน 2.35 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ใหญ่ที่สุด โดยที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดให้เป็นธนาคารที่มีความสำคัญในเชิงระบบ มีส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่ออยู่ที่ 9.4% ของสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งหมดในประเทศไทย และยังมีส่วนแบ่งกำไรสุทธิที่นำส่งรัฐบาลสูงที่สุดในกลุ่มสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งหมดอีกด้วย โดยกำไรสุทธิในปี 2564 คิดเป็น52.2% ของกำไรสุทธิของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งหมด ซึ่ง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดจำนวนถึง 23 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและประชาชนฐานรากในสัดส่วน 60% ทำให้ทริสเรทติ้งคาดว่า ธนาคารออมสินจะยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยต่อไปได้