GLOCON ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2566 ทะลุ 3200 ลบ.

GLOCON ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2566 ทะลุ 3,200 ลบ.

โชว์ 9 เดือนแรกปีนี้ทะยานแตะ 1,829 ลบ.

 

บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ โชว์ผลงาน 9 เดือนแรกปี 2565 รายได้รวมเติบโตต่อเนื่องกว่า 33แตะ 1,829 ล้านบาท ตามการเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจหลัก พร้อมรับรู้รายได้จาก “ลูกชิ้นทิพย์” เติมพอร์ตรวมกว่า 318 ล้านบาท ผู้บริหาร ประกาศเกมรุกปิดร้านขายปลีกลูกชิ้นทิพย์ที่ไม่ทำกำไร ปรับรูปแบบสู่ “แฟรนไชส์” เพิ่มขีดความสามารถทำกำไร พร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ “น้ำจิ้ม-ซอส-ไส้กรอก” รองรับดีมานส์ตลาด ลุยตลาดต่างประเทศเต็มรูปแบบ หนุนการเติบโต มั่นใจภาพรวมผลงานทั้งปี 2565 พลิกกำไร รายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2566 ทะลุ 3,200 ล้านบาท ยืนยัน จ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นได้ตามแผนภายในไตรมาส 1/2566

นางเพ็ญศรี สืบสุวงษ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ผู้นำการผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารและบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2565 (มกราคม-กันยายน) ว่า บริษัทฯมีรายได้รวมเติบโตต่อเนื่องกว่า 33เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 1,829 ล้านบาท ตามการเติบโตของยอดขายทุกกลุ่มธุรกิจหลัก โดยกลุ่มธุรกิจอาหารมียอดขายรวมเกือบ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากหมวดอาหารแปรรูปที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่องแตะ 559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28จากช่วงเดียวกันปีก่อน 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจลูกชิ้นทิพย์เข้ามาเติมพอร์ตรวมกว่า 318 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์เติบโต 32เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 625 ล้านบาท ตามปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในกลุ่มลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ หลังได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รองรับความต้องการลูกค้าเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้าง เป็นต้น 

นางเพ็ญศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากราคาต้นทุนวัตถุดิบ อาทิ เม็ดพลาสติก และวัตถุดิบผลิตลูกชิ้น ที่ขยับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งในช่วงไตรมาส กลุ่มบริษัทได้รับผลกระทบจากการย้ายโรงงาน ซึ่งส่งผลต่อยอดขายของทั้งบริษัท ฟรุตตี้ดราย จำกัด และบริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด เซอร์วิส จำกัด อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่โรงงานใหม่ต้องเข้ารับการตรวจสอบระบบให้เป็นไปตามมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยการผลิตอาหารแบบสากลก่อนที่จะทำการผลิต ส่งผลให้ภาพรวม 9 เดือน บริษัทฯมีผลขาดทุนอยู่ราว 2 ล้านบาท 

 

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทฯได้รับการรับรองคุณภาพโรงงานตามมาตรฐานเรียบร้อยแล้วนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และบริษัทฯได้พิจารณาปรับราคาขายผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มธุรกิจให้สะท้อนต้นทุนแท้จริง ควบคู่ไปกับบริหารจัดการกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพระดับสูง ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้ายปี 25655 บริษัทฯเร่งเดินเกมรุกปิดจุดอ่อนร้านขายปลีกลูกชิ้นทิพย์ที่ไม่ทำกำไรทั้งหมด พร้อมปรับรูปแบบจากร้านสาขาเป็นแฟรนไชส์ ส่งผลให้ต้นทุนการขายลดลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการทำกำไรให้เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อเพิ่มความหลากหลายรองรับความต้องการของตลาด อาทิ ไลน์อาหารแช่เย็น (Chilled Food), ผลิตภัณฑ์หมวดซีฟู้ด รวมไปถึงน้ำจิ้มซอสปรุงรส และไส้กรอกหลากหลายรสชาติ พร้อมเดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศเต็มรูปแบบ ขับเคลื่อนการเติบโต เบื้องต้นมั่นใจภาพรวมผลงานปี 2565 สามารถพลิกกลับมามีกำไร รายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2566 ทะลุ 3,200 ล้านบาท สามารถจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นได้ตามแผนภายในไตรมาส 1/2566 

ทั้งนี้ บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ แบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจอาหารประกอบด้วย อาหารแปรรูปแช่แข็ง, อาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน, ลูกชิ้นทิพย์ และผลไม้อบแห้ง สัดส่วน 73%, 2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ สัดส่วน 24%และ 3.ธุรกิจเทรดดิ้ง สัดส่วน 3ของรายได้รวม