บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ประกาศผลงานงวด 9 เดือนแรกปี 65 ไม่ธรรมดา กำไรโตแตะ 2,824.25 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 8,011.23 ล้านบาท รับแรงหนุนหลักจากธุรกิจพลังงาน ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24พ.ย.65 พร้อมจ่ายวันที่ 8 ธ.ค. 65 ด้าน “ดร. สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” ตอกย้ำนับต่อจากนี้ได้เห็นกลุ่มกันกุลฯ เติบโตพร้อมพันธมิตทางธุรกิจ และยังเดินหน้าประมูลโครงการพลังงานทดแทน เพื่อเป้าหมายต่อยอดธุรกิจและผลประกอบการอนาคตโตต่อเนื่อง ส่วนผลงานปีนี้ยังมั่นใจรายได้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15%
ดร. สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่าปีนี้ถือเป็นปีที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการขยายศักยภาพธุรกิจพลังงานอย่างเข้มข้น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศที่ต้องการจะเข้าสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Economy) โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้พัฒนาโอกาสในการทำธุรกิจพลังงานด้านต่างๆ และได้ทุ่มเทที่จะพัฒนากลยุทธ์ เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อให้เติบโตไปพร้อมๆ กัน
ส่งผลทำให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตได้อย่างมีศักยภาพ เห็นได้จากผลประกอบการงวด 9 เดือน (สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2565) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยถือว่าแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,739.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,084.38ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 62.33% ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 8,011.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.06 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 7,086.08 ล้านบาท
จากความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และผลประกอบการในปีนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.06บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 535 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิงวด 1 มกราคม – 30 กันยายน 2565 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 นี้
ทั้งนี้บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพและภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าจะเติบโตต่อเนื่อง
จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน, ธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และธุรกิจกัญชง-กัญชาที่ยังเป็นตัวขับเคลื่อน และยังคงตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไปแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 ซึ่งบริษัทฯ มีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลม โดยบริษัทฯ มีความพร้อมด้านการเงิน และสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่สามารถลงทุนได้อีกกว่า 40,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี ด้านธุรกิจ EPC ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวเสริมถึงแผนการผลักดันธุรกิจให้เติบโตเพิ่มมากขึ้นในอนาคตว่า นับต่อจากนี้กลุ่มบริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปในการขับเคลื่อนธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่แข็งแกร่ง รวมถึงพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยวางนโยบายในกลุ่มธุรกิจแต่ละกลุ่มของบริษัทฯ ให้เติบโตไปพร้อมๆ กับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง และก้าวสู่เป้าหมายให้เร็วยิ่งขึ้น
“การทำธุรกิจเพียงลำพังอาจต้องใช้เวลายาวนาน แต่หากร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งจะทำให้ธุรกิจเติบโตและก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปีนี้สิ่งที่ได้เห็นอย่างชัดเจนคือ บริษัทฯ ได้ผลักดันให้สายงานแต่ละกลุ่มของบริษัทฯ เติบโตไปพร้อมๆ กับพาสเนอร์ โดยได้ร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในการผลักดันธุรกิจ และยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของกลุ่มกันกุลฯ”