"บมจ.โพลีเน็ต POLY” ประกาศเคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 6.80 บาท กำหนดเปิดให้จองซื้อระหว่าง 9 - 11 พ.ย.นี้ ปักธงเทรด SET 16 พ.ย. 65 พร้อมเดินหน้ากางแผนธุรกิจในงานโรดโชว์ สรุปการเสนอขาย หุ้น IPO 120 ล้านหุ้น และมุ่งเน้นสู่กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์และกลุ่มสินค้า อุปโภคบริโภค เพื่อรองรับแผนขยายตลาดไปยัง ลูกค้าในอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาส
ล่าสุด POLY ลงนามในสัญญาการเสนอขายหุ้นสามัญ โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จํากัด (มหาชน)
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้กำหนดราคาเสนอ IPO จำนวน 120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.80 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายนนี้ คาดเข้าซื้อขายวันแรก ที่ 16 พฤศจิกายน 2565
สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 6.80 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วน ราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 15.0 เท่า ล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565) ทั้งนี้ POLY พิจารณานำ P/E ถัวเฉลี่ยถ่วง น้ำหนักของคู่เทียบกลุ่มยานยนต์ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในช่วง 30-90 วันทำการ นับจากวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2565
นางกาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) (POLY) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 785 ล้านบาท (หลังหัก ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 370 ล้านบาท ใช้สำหรับจ่ายคืนหนี้สินเงิน กู้ยืมจากสถาบันการเงิน 320 ล้านบาท และใช้สำหรับลงทุน 95 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป
.สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 - 2564) บริษัทฯ มีรายได้รวม 581.7 ล้านบาท 523.2 ล้านบาท และ 787.1 ล้านบาท เนื่องจากการขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 13.1 ล้านบาท 21.8 ล้านบาท และ 120.9 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น
ด้านผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2565 รายได้รวมอยู่ที่ 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% กำไรสุทธิอยู่ที่ 78.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
.
#POLY #บริษัทหลักทรัพย์ #โพลีเน็ตPOLY #กาญจนาเหลารัตนา #สุวิมลศรีโสภาจิต