หุ้น AOT ทิศทางดีขึ้น นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทยช่วง High Season ต.ค.- ธ.ค. ปีนี้คาดทางเข้ามา 3 ล้านคนต่อเดือน สิ้นปีนี้แตะ 10 ล้านตามเป้า มีโอกาส “เทิร์นอะราวด์” ไตรมาส 4/2566
จากช่วงเดือน ต.ค. ปริมาณผู้โดยสารขาเข้า-ออกของประเทศของ AOT เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น มีปริมาณนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 3 ล้านคน เพิ่มขึ้น +2,585.5% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วน 44% ของช่วงก่อนโควิด-19 (ต.ค.62) ซึ่งวางเป้าไว้ที่ 10 ล้านคนภายในปีนี้ สำหรับตัวเลขการท่องเที่ยวสะสมในประเทศไทยปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 7 ล้านคน นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักมาจากแถบเอเชีย โดยเฉพาะอินเดีย และยังมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกา ที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่น สามารถสร้างรายได้รวม 1.5 ล้านล้านบาท คาดว่าปีหน้ากำไรสามารถพุ่งถึง 100%
สำหรับปี 2566 ททท.ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนักท่องเที่ยวเข้าไทยไว้ที่ 20 ล้านคน แต่ถ้าหากนักท่องเที่ยวจีนกลับมา 100% ตั้งแต่ครึ่งแรกปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.39 ล้านล้านบาท
บล.ดาโอ ให้มุมมองกับหุ้น AOT ว่า AOT มีต้นทุนเรื่องของค่าเช่าสถานที่ที่ต้องจ่ายให้กับราชพัสดุ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการยกเว้น แต่ต้องเริ่มจ่ายในปี 2566 นี้ จะทำให้งบการบริหารจัดการของ AOT มีการเปลี่ยนแปลง การประเมินผลการดำเนินงานคาดว่าจะดีขึ้นโดยเฉพาะไตรมาสที่ 4 ซึ่งสอดคล้องกับช่วง High Season ที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา จะทำให้ผลประกอบการขาดทุนน้อยลง แนะนำให้วางหุ้นในกลุ่มเปิดเมืองไว้ในพอร์ต 1 ตัว
ประเมินกำไรไตรมาส 4/2565-ไตรมาส 1/2566 มีโอกาสเห็นการ Turnaround หลังจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง ประเมินผลประกอบการปี 2565 ขาดทุนที่ 1 หมื่นล้านบาท แต่ช่วงปี 2566 มีโอกาสพลิกฟื้นทำกำไรได้
AOT เป็นเจ้าของสัมปทานสนามบิน 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย สนามบินภูเก็ต สนามบินหาดใหญ่ ล่าสุด AOT ได้บริหารสนามบินอีก 3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดกระบี่ รวมตอนนี้ AOT มีสนามบินอยู่ประมาณ 9 แห่ง ก็ถือได้ว่าตรงนี้ก็ทำให้มูลค่าของ AOT น่าจะดีขึ้น