บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) เตรียมเปิดบริการซื้อขายหุ้นเพิ่มอีก 23 ประเทศชั้นนำผ่านแอปพลิเคชัน KSS iGlobal ให้ลูกค้าเลือกลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้รวมกว่า 28 ประเทศด้วยตนเองในแอปพลิเคชันเดียว และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในการสั่งซื้อขายหุ้นแบบ Fractional Share ในตลาดฮ่องกงพร้อมดึงกูรูแถวหน้าที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ร่วมเสริมทัพผู้บริหารให้แข็งแกร่งขึ้น
นายธนัท วงษ์ชูแก้ว กรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “KSS มีแผนเปิดให้บริการ Fractional Share เพิ่มในตลาดหุ้นฮ่องกงในช่วงไตรมาส 1/2565 ซึ่งจะทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงหุ้นระดับโลกอย่าง Tencent, AIA, Haidilao หรือ Xiaomi ได้ง่ายขึ้น รวมถึงขยายจำนวนตลาดหุ้นต่างประเทศให้เป็นทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายขึ้น อาทิ ประเทศอินโดนีเซีย จีน อังกฤษ เยอรมันและอีกกว่า 10 ประเทศชั้นนำ ทั้งในยุโรบและเอเชีย นอกจากนี้ KSS จะเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งแรกของไทยที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยจะเริ่มให้บริการในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศแรก”
ก่อนหน้านี้ KSS ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน KSS iGlobal แพลตฟอร์มที่ช่วยนักลงทุนไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศไปเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ด้วยตนเองในแอปพลิเคชันเดียว และยังเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นทั้งแบบ Fractional Share และ Normal Share
“KSS ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ทางเลือกการลงทุนให้กับลูกค้าที่ต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุนรวมถึงการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Potential Yield Enhancement) เช่น หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงสินทรัพย์การเงินต่างประเทศ (Global Structured Products) Fixed Coupon Note (FCN) Principle Protected Note (PPN) และ Bonus Enhanced Note (BEN) และยังออกผลิตภัณฑ์กองทุนรวมต่างประเทศ (Global Mutual Fund) และ ตราสารหนี้ต่างประเทศ (Global Fixed Income) ซึ่งทั้งหมดจะสามารถให้บริการนักลงทุนภายในปลายปีนี้”
นอกจากการสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าแล้ว KSS ยังได้มีการเสริมทัพผู้บริหารด้วยการดึงคุณเผดิมภพ สงเคราะห์ เข้าร่วมทีม โดยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 นี้
“การได้คุณเผดิมภพเข้ามาเสริมทัพเพื่อทำหน้าที่ดูแลกลุ่มงานขายลูกค้าบุคคลและลูกค้าสถาบัน และยกระดับการให้บริการด้านการลงทุนให้ดีขึ้น ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับบริษัท ซึ่งยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในระยะยาว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจการเงินโดยเฉพาะการตื่นตัวในการลงทุนของคนไทยที่สนใจการลงทุนมากยิ่งขึ้นนับจากหลังเหตุการณ์โควิด-19 เป็นต้นมา โดยพฤติกรรมด้านการลงทุนของนักลงทุนที่เปลี่ยนไปส่งผลให้ผู้ลงทุนจำนวนมากสนใจในผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีความหลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางด้านการเงินอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงมีแนวนโยบายในการเสริมสร้างเรื่องการลงทุนเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย(Financial Inclusive) ผ่านการพัฒนาระบบ Application ต่างๆ รวมถึงการให้ความสำคัญในการให้ความรู้ด้านการลงทุนให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องของธนาคารผ่าน Krungsri The COACH ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก One Retail ของกรุงศรี”