บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/65 เติบโตจากการรับรู้รายได้จากงานในมือที่มีอยู่ประมาณ 63,000 ล้านบาท ทั้ง YoY และ QoQ หนุนโดยเงินปันผล และส่วนแบ่งกำไรบริษัทลูก ขณะที่ส่วนแบ่งกําไรจากบริษัทลูกเติบโตแรงทั้ง CKP และ BEM และยังมีเงินปันผลจาก TTW เข้ามาอีก ด้านงานใหม่เตรียมรับงานรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกมูลค่า 1.09 แสนล้านบาท จาก BEM ต่อด้วยโรงไฟฟ้าหลวงพระบางอีก 8 หมื่นล้านบาท  รวมทั้งงานก่อสร้างขุดคลองระบายน้ำหลากพร้อมอาคารประกอบ สัญญาที่ 4 โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับกรมชลประทาน มูลค่า 3,280 ล้านบาท

    CK ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ไว้ที่ 17,000 – 18,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากงานรับเหมาก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมาตรการคลายล็อกดาวน์ของทางรัฐบาล ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลดลง และจะมีการรับรู้รายได้จากงานที่มีอัตรากำไรสูงเข้ามามากขึ้น

ด้าน     บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี ได้ให้ความเห็นของหุ้น CK ว่า บริษัทมีการเดินหน้าลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการต่าง ๆ และงบไตรมาส 3/65ที่น่าจะออกมาดี เป็น Sentiment บวกต่อการลงทุน ราคาหุ้นมีการ Upside จากการเข้าประมูลโครงการต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมในอนาคตมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท

    ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ระดับประมาณ 22.50 บาท P/E 26.5 เท่า (EPS 0.85 บาท/หุ้น) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 34.5 เท่า แนวรับอยู่ที่ 22.30 บาท แนวต้าน 23.10 บาท (Stop loss ถ้าหลุด 21.80 บาท) ส่วน บล.กสิกรให้ราคาหุ้นพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 26-29 บาท ราคา Upside สูงสุดอยู่ที่ 29 บาท

    ดร.ณรงค์  ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจารับงานก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายเดือนธันวาคมจะทำให้มูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 2,000 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะสามารถประมูลงานได้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้อย่างต่อเนื่อง จากการทำธุรกิจเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับฐานราก บริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจะสามารถดีขึ้นได้ในปีหน้า หากไม่มีปัจจัยมากดดันบริษัทเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้การก่อสร้างมีความต่อเนื่อง และในตอนนี้บริษัทได้มีโครงการใหญ่ ๆ เช่น การก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 - บ้านแพ้ว และ Central Embassy รวมทั้งการรอลงนามจัดซื้อโครงการรถไฟฟ้าสีม่วงส่วนต่อขยาย ซึ่งทำให้บริษัทมีงานในมือสูงถึงกว่า 2,000 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งได้มีการจัดทำไปแล้วรวมประมาณ 1,285.80 ล้านบาท บริษัท ยังมีปัจจัยหนุนจากการรับงานโครงการใหญ่ ๆ ของ CK ได้เป็นผู้รับเหมาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรม

    ขณะเดียวกัน Seafco ยังได้จัดหาแรงงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปี 2565 บริษัทจะมีแรงงานเพิ่มขึ้นประกอบกับราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลดลงในครึ่งปีหลัง จะช่วยหนุนให้บริษัทสามารถทำกำไร เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112%