ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น จัดสัมมนา “2022 China – Thailand Green Energy Cooperation Seminar and Roadshow” ในรูปแบบ virtual conference วันที่ 20 กันยายน 2565 ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 เพื่อเชื่อมโยงและเพิ่มโอกาสการลงทุนของทั้งสองประเทศ โดยเชิญผู้บริหารจากตลาดทุน และบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ร่วมให้ข้อมูลแนวโน้มธุรกิจพลังงานทดแทนของประเทศไทย และการดำเนินธุรกิจของ บจ. ที่เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนภายใต้บริบทใหม่ โดยมีผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนบุคคลในจีนร่วมรับฟังข้อมูลกว่า 120 ราย
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น จัดสัมมนา “2022 China – Thailand Green Energy Cooperation Seminar and Roadshow” ขึ้นในรูปแบบ virtual conference ในวันที่ 20 กันยายน 2565 ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 เพื่อให้ข้อมูลการขับเคลื่อนธุรกิจด้านพลังงานทดแทนของไทย และศักยภาพของ บจ. ไทยในธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งทั้งไทยและจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นทิศทางเดียวกับทั่วโลกที่ขับเคลื่อนการลดการใช้พลังงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมโดยภาครัฐได้กำหนดเป้าหมายว่าประเทศไทยจะมีสัดส่วนพลังงานทดแทน (หรือ หมุนเวียน) 30% ภายในปี พ.ศ. 2580 มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608
“แผนงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมให้ บจ. นำหลักการที่ครอบคลุมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social, Governance: ESG) มาบูรณาการในกระบวนการดำเนินงานให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง บจ. ไทยจำนวนมากได้ปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่พลังงานทดแทน ขณะที่ปัจจุบันผู้ลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน (sustainable investment) เพื่อสร้างโอกาสการได้รับผลตอบแทนในระยะยาว สัมมนาครั้งนี้ ผู้บริหารตลาดทุนได้ร่วมให้ข้อมูลในหัวข้อ “Green Energy Outlook and Investment Trends in Thailand & China” ถึงแนวโน้มธุรกิจด้านพลังงานทดแทนของประเทศไทยนอกจากนี้ ยังเชิญผู้บริหาร บจ. ที่ทำธุรกิจด้านพลังงาน 3 บริษัท ได้แก่ บมจ. บี. กริม เพาเวอร์ บมจ. ผลิตไฟฟ้า และ บมจ. ราช กรุ๊ป ร่วมนำเสนอศักยภาพและทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันจีนและขยายโอกาสการลงทุนในอนาคต โดยผู้มีลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนบุคคลในจีนเข้าร่วมกว่า 120 ราย
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันตั้งแต่ปี 2562 เพื่อขยายโอกาสให้หลักทรัพย์ไทยและจีนเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น พร้อมเปิดโอกาสการเชื่อมโยงทั้งสองตลาด เพื่อเพิ่มทางเลือกในการระดมทุน อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้ามตลาด และความร่วมมือด้านดัชนี เป็นต้น รวมถึงการจัดกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกันอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี