ดีพร้อม เปิดบ้านให้ศิษย์เก่าสตาร์ทอัพ 11 บริษัท ดันดีคาร์บอนไนเซชันโชว์นวัตกรรมลดใช้พลังงาน

ดีพร้อม เปิดบ้านให้ศิษย์เก่าสตาร์อัพ 11 บริษัท ดันดีคาร์บอนไนเซชันโชว์นวัตกรรมลดใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ธุรกิจกว่า 100 ล้านบาท
นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) นำร่องพื้นที่ของดีพร้อมให้ศิษย์เก่าสตารอัพจำนวน 11 บริษั ด้านการลดการปลดปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) ร่วมโชว์นวัตกรรมลดใช้พลังงานในพื้นที่ต้นแบบ คือ อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) เพื่อให้เกิดเป็น ยูส เคส (Used case) คาดจะลดการปล่อยคาร์บอนได้ 20% ลดใช้พลังงานลง 10% พร้อมสร้างรายได้จากสินค้าและบริการที่ทดสอบกว่า 100 ล้านบาท

นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม เปิดเผยว่า ดีพร้อม ได้เดินหน้าโครงการ DIPROM Playground for decarbonization technology ภายใต้ กิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (Alumni Networking) โดยร่วมมือกับศิษย์เก่าเหล่าสตาร์ทอัพด้านลดการปลดปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) จำนวน 11 บริษัท ให้มีโอกาสสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ  กับผู้ประกอบการด้วยกัน และกับหน่วยงานภายใต้ดีพร้อม โดยนำเสนอโซลูชั่นและทำการทดสอบเทคโนโลยี/นวัตกรรมในสถานที่จริงเน้นด้านการประหยัดพลังงาน และการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดเป็น  ยูส เคส (Used case)โดยนำร่องที่อาคารของดีพร้อมเป็นพื้นที่ต้นแบบ 

นายภาสกร กล่าวว่า หลังดำเนินกิจกรรมมากว่า 2 เดือน ได้ส่งเสริมให้สตาร์ทอัพด้าน Decarbonization สร้างเครือข่ายความร่วมมือ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน รวมถึงเชื่อมโยงเครือข่ายกับหน่วยงานภายใต้ ดีพร้อม เพื่อตอบโจทย์ในการลดการปล่อยคาร์บอน ทำให้สตาร์ทอัพทั้ง 11 ทีม เข้าใจความต้องการและระบบการทำงานของอาคารขนาดใหญ่มากขึ้น โดยการทำงานภายใต้สนามทดสอบที่เป็นของจริงจะมีเงื่อนไขที่เป็นข้อจำกัดของอาคาร พนักงาน และอื่น ๆ ซึ่งสตาร์ทอัพทุกทีมสามารถแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการแก้ปัญหาและทำงานจริงร่วมกันหน่วยงานต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี การเปิดบ้านให้เป็นสถานที่นำร่องในการทดสอบในครั้งนี้ ถือเป็นอีกแนวทางในการช่วยส่งเสริมให้สตาร์ทอัพได้ทำงานจริงกับอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ รวมถึงเข้าใจถึงระบบการดำเนินงานกับภาครัฐ ซึ่งสตาร์ทอัพทุกทีมจะใช้โมเดลในการทดลองนี้ในการต่อยอดให้เป็นเชิงพาณิชย์ สร้างรายได้ และสร้างการเติบโตต่อไป 


"เมื่อดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ ในระยะเวลา 6 เดือน - 1 ปี คาดว่า ดีพร้อม จะลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 20% ของปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปลดปล่อยออกมาต่อปี และประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ 10% ต่อปี นอกจากนี้ สตาร์ทอัพที่ร่วมโครงการยังจะต่อยอดสร้างรายได้จากสินค้าและบริการที่ได้นำมาทดสอบกว่า 100 ล้านบาทต่อปี" นายภาสกร กล่าว

สำหรับสตาร์ทอัพทั้ง 11 ทีมในโครงการ DIPROM Playground for Decarbonization Technology ภายใต้ กิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (Alumni Networking) ประกอบด้วย 

กลุ่มบริหารจัดการพลังงาน 

1. บริษัท โนวา กรีน เพาเวอร์ ซิสเต็ม จำกัด : โซลูชั่นการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Energy Solutions) วิเคราะห์ แก้ปัญหา ปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้า ลดอัตราสิ้นเปลือง ได้ทำรายงานนำเสนอแผนการปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้าให้กับดีพร้อม เพื่อปรับปรุงการพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น   

2. บริษัท ทีไออี สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด บริการทางด้านการบริหารจัดการพลังงาน วินิจฉัยปัญหาระบบปรับอากาศภายในอาคาร ให้เป็นระบบอัจฉริยะ ทดสอบติดตั้งชุดอุปกรณ์ภายใอาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) ช่วยบริหารจัดการพลังงาน ทำให้ดีพร้อม ประหยัดพลังงานได้อย่างน้อย 10% 

3. บริษัท แพลนเน็ตซี จำกัด : แพลตฟอร์มอัตโนมัติประเมินและบริหารจัดการการลดการปล่อยคาร์บอนสำหรับองค์กร โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ จากการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง ดีพร้อม มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 611 tonCO2ในปี 2564 ภายหลังการให้ความรู้แก่บุคลากรดีพร้อม และเพิ่มเติมการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการลดและกำจัดคาร์บอน โดยหากดีพร้อมดำเนินการอย่างต่อเนื่องจะสามารถลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้ถึง 20% ต่อปี  

4. บริษัท โชเซ่น ดิจิตอล จำกัด : ระบบบริหารการเปลี่ยนผ่านพลังงานครั้งแรกอาเซียน การออกแบบระบบ EV Charger ที่เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งกำลังจะทำการทดสอบติดตั้งบริเวณลานจอดรถของ ดีพร้อม เพื่อให้บริการในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 

5. บริษัท อินฟิไลท์ จำกัด : แพลตฟอร์มบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ เปลี่ยนที่ว่างสร้างรายได้ครบวงจรและระบบจองพื้นที่จอดอัตโนมัติ เชื่อมต่อกับ บริษัท โชเซ่น ดิจิตอล จำกัด ในการทดสอบการทำงานระบบจอง และล็อคพื้นที่จอดรถ EV Station กับ ดีพร้อม

กลุ่มบริหารจัดการขยะ ประกอบด้วย 

1. โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ : ชุดอุปกรณ์เปลี่ยนถ่านรีโมทให้เป็นแบบที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยถ่ายของ RENIWSI ใช้งานได้ถึง 3 ปีและนำไปชาร์จใหม่ได้ ทำให้ดีพร้อมลดค่าใช้จ่ายในการซื้อถ่านอัลคาไลน์ได้ถึง 33%/ปี หากประเทศไทยเปลี่ยนมาใช้ชุดอุปกรณ์ชนิดนี้ จะช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 10,845 tonCO2e/ปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 723,057 ต้น/ปี 

2. บริษัท แทคท์ โซเชียล คอนซัลติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาในการบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมและจัดการขยะครบวงจรได้จัดกิจกรรมฝึกอบรมให้ความรู้กับบุคลากรของดีพร้อมสร้างระบบแยกขยะ นำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ หากดำเนินการเต็มรูปแบบคาดว่าจะลดปริมาณขยะลงหลุมฝังกลบได้ถึง 40%              

3. บริษัท สายฝน ไฮบริด จำกัด แพล็ตฟอร์มสร้างแรงจูงใจในการแยกขยะจากต้นทางโดยใช้ โทเค็น (Token) ผ่านสมาร์ทโฟน token สามารถนำไปซื้อสินค้าต่างๆ ที่อยู่ในแพล็ตฟอร์มได้  

4. บริษัท ยะลาฟูดส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการขยะอินทรีย์ วางระบบกำจัดขยะอินทรีย์ด้วยหนอนแมลงวันลาย (BFSL) ให้องค์ความรู้ผ่านการจัดทำสื่อของดีพร้อม เพื่อให้บุคลากรตระหนักรู้และมีแนวทางในการจัดการขยะแบบปลอดภัย ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมจากขยะในพื้นที่ฝังกลบ 0.38 tonCO2e/ปี 

กลุ่มบริหารจัดการน้ำและอากาศ 

1. บริษัท ไอโฟลว์เทค จำกัด : เทคโนโลยีปรับคุณภาพน้ำให้มีความปลอดภัย ไม่ใช่ไฟฟ้า ไม่ใช้เคมี โดยได้ติดตั้งอุปกรณ์ที่อาคารของดีพร้อม สามารถลดตะกรันในท่อกว่า 82% ลดการใช้น้ำกว่า 30% และช่วยประหยัดพลังงาน ยืดอายุการใช้งานของปั๊มน้ำซึ่งมีราคาสูงได้อีกด้วย

2. บริษัท กรีนไอโอ จำกัด ตรวจวัดคุณภาพมวลอากาศ โดยติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดที่ดีพร้อมเพื่อวัดคุณภาพอากาศ วัดค่าอุณหภูมิความชื้นคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สารระเหยรวม VOCs, PM 2.5 เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการสภาพอากาศต่อไป

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6865-66 ต่อ 4 และติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dipromindustry หรือwww.diprom.go.th