คปภ.ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุกราดยิงที่โคราช

คปภลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือด้านการประกันภัยแก่ผู้ประสบภัย กรณีมีการกราดยิงกลางใจเมืองโคราช เผยตรวจพบมีประกันภัยคุ้มครองจึงเร่งบูรณาการเพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความสูญเสียและเดือดร้อนอย่างเต็มที่

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณี...จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกรมสรรพาวุธ กองพันกระสุนที่ 22 กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา ก่อเหตุสะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิง ทหาร ตำรวจ และประชาชน หลังจากนั้นหลบหนีเข้าไปภายในห้างเทอร์มินอล 21 ซึ่งตั้งอยู่กลางใจเมือง จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมคนร้าย 30 ราย และบาดเจ็บ 58 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เบื้องต้น เลขาธิการ คปภได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการการทำงานร่วมกับ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยสำนักงาน คปภภาค 4 (นครราชสีมาและสำนักงาน คปภจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ติดตามและลงพื้นที่ตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า มีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างเต็มที่


ทั้งนี้ ได้รับรายงานเบื้องต้นจากสำนักงาน คปภภาค 4 (นครราชสีมาว่า ห้างเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา มีการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ไว้กับบมจ.ทิพยประกันภัย กรมธรรม์เลขที่ 14016-114-200001384 เริ่มคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 18 ธันวาคม 2563 โดยมีสัดส่วนของบริษัทประกันภัยที่ร่วมรับประกันภัย ดังนี้ 1.บมจ.ทิพยประกันภัย 40% 2.บมจ.ฟอลคอนประกันภัย 25% 3.บมจ.อาคเนย์ประกันภัย 15% 4.บมจ.แอกซ่าประกันภัย 10% 5.บมจ.ไทยไพบูลย์ประกันภัย 10% และ มีการทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (เนื่องจากภัยที่เอาประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สินกรมธรรม์เลขที่ 14059-114-200000446 เริ่มคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2563 รวมทั้งยังมีการทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ไว้กับบมจชับบ์สามัคคีประกันภัย กรมธรรม์เลขที่CPL0020608PL-21136 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2563 โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอก รวมถึงผู้เช่าภายในอาคารหรือพื้นที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากความบกพร่อง การประมาทเลินเล่อความผิดพลาดในการดำเนินงานของผู้เอาประกันภัย หรือลูกจ้างของผู้เอาประกันภัย และผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นตามกฎหมาย ในฐานะเจ้าของหรือสถานที่ รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินคดี ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อบังคับข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคคภายนอก


จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการทำประกันภัย ดังนี้ 1.นางพัชรา จันทร์เพ็ง ทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม(อุ่นใจไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มคุ้มครองวันที่ 23 มีนาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 23 มีนาคม 2563 และจัดทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล บัตร Palladium ไว้กับบมจทิพยประกันภัย , 2.นางสาวอาริยา กลีบเมฆ ทำประกันชีวิต ไว้กับ บมจ.กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิตเริ่มคุ้มครองตั้งแต่ ปี 2560 สิ้นสุดความคุ้มครอง ถึงอายุ 85 ปี และการประกันสินเชื่อ ไว้กับบมจไทยประกันชีวิต 3.นายเอกวิน ยืนทน ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย , 4.พลทหารเมธา เลิศสิริ ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจีประกันภัย , 5.ดาบตำรวจชัชวาลย์ แท่งทอง ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย , 6.ร้อยเอกศิริวัฒน์ แสงประสิทธิ์ ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย , 7.นายอำนาจ บุญเกื้อ ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับบมจ.ทิพยประกันภัย และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลผ่านธนาคารออมสิน ไว้กับบมจ.ทิพยประกันภัย , 8.นายจิรวัฒน์ รัดกลาง ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย 9.เภสัชกรหญิงนริศรา โชติกลาง ทำประกันแบบเพนชั่น ช้อยส์ แม็กซี่ PN25 ไว้กับบมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทยและทำประกันสินเชื่อ ไว้กับบมจ.ไทยประกันชีวิต  10.นายพีรพัฒน์ พละสาร ทำประกันชีวิตกลุ่มและประกันอุบัติเหตุ ขยายความคุ้มครองกรณีถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย ไว้กับบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต 

ในส่วนของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการทำประกันภัย ดังนี้1.เด็กชายเจริญศักดิ์ จำปาทอง ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 , 2.นายสิทธิศักดิ์ วาดสูงเนิน ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย , 3.เด็กชายธีรวัฒน์ วัชรีเสวิน ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับบมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 , 4.พลทหารโชคชัย มูลจันทร์ ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจีประกันภัย , 5.พลทหารอรรถพลวงศ์พล ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจี ประกันภัย , 6.นายทิพยา แก้วพรหม ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (บัตร SMART LIFE) และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย , 7.ดาบตำรวจสามชัย แพเกาะ ทำประกันชีวิตกลุ่ม และประกันอุบัติเหตุ(คุ้มครองการเสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะขยายความคุ้มครองกรณีถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย ไว้กับบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต สำหรับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งนั่งอยู่ในรถคันที่มีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะได้รับความคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุตามเอกสารแนบท้ายตามจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกด้วย 

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภภาค 4 (นครราชสีมา สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย และบริษัทประกันภัย ได้เร่งตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้มีการทำประกันภัยส่วนบุคคลประเภทอื่น  ไว้หรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยประเภทอื่น  เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลเซนต์เมรี่ โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา และโรงพยาบาลค่ายสุรนารี สำนักงาน คปภ.ภาค 4(นครราชสีมาและสำนักงาน คปภจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าเยี่ยมและอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้แก่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บในการตรวจสอบว่าผู้บาดเจ็บมีประกันภัยประเภทอื่น  หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อใช้ระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาให้กับผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่

สำนักงาน คปภขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อันนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุเสมอ ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท จึงควรทำประกันภัยในรูปแบบต่าง  เช่น การประกันชีวิต การประกันสุขภาพการประกันอุบัติเหตุ  เพื่อนำระบบประกันภัยมาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและเข้าไปเยียวยาความสูญเสียทั้งต่อตนเองและบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบ สำหรับกรณีที่ทำประกันภัยไว้แล้ว ก็ควรตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์เพื่อระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงต่าง  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภกล่าว