บริษัทดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเมนท์ จำกัด (DTPRM) บริษัทบริหารกองทรัสต์ ในเครือบริษัท ดีทีจีโอพรอสเพอรัส จำกัด (DTP) ประกาศจัดตั้ง “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่า ดีทีพี ฮอสพิทอลลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการซื้อคืน” (DTPHREIT) มูลค่ากองทรัสต์รวมไม่เกิน 4,107 ล้านบาท พร้อมเข้าลงทุนกิจการโรงแรมศักยภาพสูงของ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ดีเวล็อปเมนต์ ควอลิตี้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) เผยเป็นกองทรัสต์ REIT buy-back ซึ่งเป็นกองทรัสต์ประเภทที่มีข้อตกลงให้เจ้าของเดิมรับซื้อทรัพย์สินคืนในวันสิ้นสุดการลงทุน
นางสาววนิดา สุขสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (DTPRM)เปิดเผยว่า กองทรัสต์ DTPHREIT จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินประเภทโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ที่มีศักยภาพของ MQDC ดังนี้.1. ลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าสังหาริมทรัพย์โครงการโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ และ 2.เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ และงานระบบต่างๆในโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) โดยมีมูลค่าขนาดกองทรัสต์ 3.ลงทุนในกรรมสิทธิ์โครงการโรงแรมยู เขาใหญ่ (U Khao Yai) รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,107 ล้านบาท
โดย กองทรัสต์ DTPHREIT เป็นกองทรัสต์ประเภท REIT buy-back ที่มีข้อตกลงในการขายอสังหาริมทรัพย์คืนให้แก่เจ้าของเดิมเมื่อสิ้นสุดปีที่ 3 นับตั้งแต่วันที่กองทรัสต์เข้าลงทุน (Obligation) นอกจากนี้ ในระหว่าง 3 ปี ที่กองทรัสต์เข้าลงทุน ได้มีข้อตกลงในการให้เจ้าของทรัพย์สินเช่ากลับ เพื่อนำทรัพย์สินหรือโรงแรมไปบริหารจัดการ และจ่ายค่าเช่าให้แก่กองทรัสต์ในอัตราที่แน่นอน โดยได้กำหนดอัตราค่าเช่าทั้ง 2 โครงการ ไว้ที่ประมาณ 217.49 ล้านบาทต่อปี และมีการวางเงินประกันเท่ากับค่าเช่าที่ต้องชำระให้แก่กองทรัสต์เป็นจำนวน 3 เดือนซึ่งจะทำให้กองทรัสต์ DTPHREIT มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอน
“ด้วยรายได้และผลตอบแทนที่แน่นอนสม่ำเสมอ จากการให้เจ้าของทรัพย์สินเช่ากลับโดยกำหนดค่าเช่าคงที่ ทำให้กองทรัสต์ DTPHREIT สามารถจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ในอัตรา 7% ต่อปี โดยจ่ายในอัตราคงที่ตลอด 3 ปี นอกจากนี้ เจ้าของยังตกลงที่จะซื้อทรัพย์สินคืนในราคาที่เท่ากับราคาที่กองทรัสต์เข้าลงทุนในวันที่สิ้นสุดปีที่ 3 นับจากกองทรัสต์เข้าลงทุน ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อสิ้นสุดปีที่ 3” นางสาววนิดากล่าว
ทั้งนี้ กองทรัสต์คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ(Ultra-High Net Worth) โดยมี บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)และ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดจำหน่าย และมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย เป็นทรัสตี
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สิน (sponsor) กล่าวว่าทรัพย์สินที่ขายให้กองทรัสต์ DTPHREIT ถือเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพที่สูงมาก ทั้งทำเลที่ตั้งและคุณภาพและเป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญกับกลุ่มบริษัท โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้มารองรับการลงทุนเพิ่ม และนำมาชำระหนี้บางส่วน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
“ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 คลี่คลายลงอย่างมาก หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศให้คนเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทิศทางธุรกิจโรงแรมกลับมาฟื้นตัวได้รวดเร็วเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการหารายได้และ มูลค่าทรัพย์สินฟื้นตัวกลับมา ในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมาก ดังนั้น หลังครบกำหนด 3 ปี บริษัท มีความตั้งใจอย่างยิ่งและมีความพร้อม ในการ ซื้อทรัพย์สินคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ที่ขายให้กอง DTPHREIT ขณะนี้มีอัตราการฟื้นตัวรวดเร็วมาก เนื่องจากในช่วงโควิดที่ผ่านมาทาง MQDC คงอัตราจ้างงานพนักงานโรงแรมทุกแห่งโดยไม่มีการคัดพนักงานออกแม้แต่รายเดียว และมีการดูแลอสังหาริมทรัพย์ให้พร้อมเปิดบริการตลอดเวลาทำให้สามารถกลับมาดำเนินการตามปกติได้ทันทีที่มีการเปิดประเทศ”
“จากสถานการณ์ต่างๆที่คลี่คลาย และมีทิศทางดีขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่า การท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้อีกครั้ง และธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ธุรกิจบริการจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์ของบริษัททีกองรีทส์ เข้าลงทุนในครั้งนี้ ตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่น ใกล้แหล่งท่องเที่ยวใจกลางเมือง บริหารโดยทีมงานชื่อดังระดับสากล จะได้รับประโยชน์โดยตรง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเอื้อให้กลุ่มบริษัทสามารถบริหารจัดการ และดำเนินการตามข้อตกลงกับกองรีทส์ได้ เป็นอย่างดี ทั้งการ ชำระ ค่าเช่าให้กองรีทส์ และการซื้อคืนทรัพย์สินได้ตามข้อตกลง” นายวิสิษฐ์ กล่าว