หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้อนุมัติปรับขึ้นค่า Ft งวดเดือนก.ย.-ธ.ค. 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าขยับตัวเพิ่มขึ้น รับอานิสงส์จาก กกพ. ปรับขึ้นค่า Ft โดยหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์มากคือ หุ้นของบริษัท บีบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH

BGRIM คาดกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัว หลังได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า Ft

          ผลประกอบการครึ่งปีหลังฟื้นตัวจากครึ่งปีแรก จากค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่ปรับขึ้น โดยคาดรายได้จากการขายไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นหลังรัฐปรับเพิ่มค่า Ft ขึ้น ตามต้นทุนก๊าซที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ในไตรมาส 3/65 คาดมีรายได้จากการขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และโครงการใหม่ทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ส่วนการลงทุนโครงการใหม่เพิ่มเติม บริษัทยังมองหาโอกาสซื้อกิจการ (M&A) ต่อเนื่อง เพื่อหนุนการเติบโต ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าจะได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่ (PPA) ราว 1,000 เมกะวัตต์ ในช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสได้เพิ่มเติมเข้ามาบางส่วน

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2565 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567  ทางบริษัทได้หาแนวทางการบริหารจัดการต้นทุน จากราคาก๊าซที่สูงขึ้น โดย บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายจะเริ่มนำเข้า LNG เพื่อใช้ในการผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งต่อยอดไปถึงลูกค้าในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีความต้องการก๊าซ LNG บี.กริมได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการในการจัดหาและค้าส่งก๊าซ LNG โดยได้รับโควตาอยู่ที่ระดับ 1.25 ล้านตัน/ปี ส่วนด้านการผลิตกำลังไฟฟ้าก็จะมีการประมูลให้ครอบคลุมทั่วเอเชีย บี.กริมมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ถึง 3 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 88 เมกะวัตต์ และขยายในอนาคตอีก 300-400 เมกะวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติอีก 200 เมกะวัตต์

    บี.กริมตั้งเป้าเป็นองค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2050 หรือ พ.ศ.2593 ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์มีโครงการทั้งหมด 56 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 3,376 เมกะวัตต์ มีเป้าหมายในการขยายการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าอีก 7,200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 ภายในปี 2573 รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ได้สูงสุด 10,000 เมกะวัตต์

ราคาหุ้น บี.กริมในช่วง 3 เดือนกว่าปรับตัวขึ้น 25% จากแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง เพราะการปรับค่า Ft ขึ้น และการลงทุนโครงการใหม่เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น