กองทรัสต์ WHART ฟอร์มโชว์เด่น Q2/65

กองทรัสต์ WHART” ฟอร์มโชว์เด่น Q2/65

ผลการดำเนินงานดี อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 92% รายได้รวมเพิ่ม 197 ล้านบาท

เคาะปันผล 0.1920 บาทต่อหน่วย จ่อ XD 18 ส.ค.นี้

กรุงเทพฯ – กองทรัสต์ WHART โชว์ผลงานไตรมาส 2/2565 (1 เม.ย.- 30 มิ.ย.) โตต่อเนื่อง มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย (Average Occupancy Rate) มากถึง 92% รับอานิสงส์กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) และกลุ่มธุรกิจ E-Commerce คึกคัก หนุนรายได้รวม 772.83 ล้านบาท และกำไรจากการลงทุนสุทธิ 610.87 ล้านบาท ผลให้บอร์ดมีมติจ่ายปันผล 0.1920 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 0.0005 บาทต่อหน่วย เตรียมขึ้น XD วันที่ 18 สิงหาคม 2565 เพื่อจ่ายเงินปันผลในวันที่ 2 กันยายน 2565

 

นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (“กองทรัสต์ WHARTเปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)  โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย (Average Occupancy Rate) อยู่ที่ร้อยละ 92 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 88 โดยผู้เช่าส่วนใหญ่ เป็นผู้เช่าในกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (3PLs) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) และกลุ่มธุรกิจ E-Commerce ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44 ร้อยละ 19 และร้อยละ 17 ตามลำดับ ซึ่งธุรกิจดังกล่าว เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีภาพรวมที่ดีและมั่นคงถึงแม้ว่าอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2565 กองทรัสต์ WHART มีระยะเวลาสัญญาเช่าเฉลี่ยของกองทรัสต์ (WALE) ที่ 3.56 ปี จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ WHART อยู่ในระดับที่ดี

จากอัตราการเติบโตดังกล่าว ส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีรายได้รวม 772.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197.07 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 7 (เพิ่มทุนครั้งที่ 6) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทรัพย์สินปัจจุบัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 610.87 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้น 217.45 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานจริงที่ดีขึ้นของกองทรัสต์ ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส ปี 2565 กองทรัสต์มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าการประเมินทรัพย์สินที่ลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 7 (เพิ่มทุนครั้งที่ 6) ลดลงจำนวน 482.46 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าทางบัญชีและไม่เป็นค่าใช้จ่ายทางเงินสดของกองทรัสต์ WHART

จากการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงผลการดำเนินงาน กองทรัสต์ WHART  ได้อนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วย สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2565 ในรูปเงินปันผลที่อัตรา 0.1920 บาท ต่อหน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.0005 บาทต่อหน่วย เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนหน้า โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนการโอนหน่วยทรัสต์ เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 22 สิงหาคม 2565 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 18 สิงหาคม 2565 เพื่อจ่ายเงินปันผลในวันที่ 2 กันยายน 2565

 ส่วนความคืบหน้าการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 8 ในสิทธิการเช่าและสิทธิการเช่าช่วงของอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นของดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น มูลค่าไม่เกิน 4,050.86 ล้านบาทนั้นทางกองทรัสต์ WHART ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อย  โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ มีความโดดเด่นด้านทำเลศักยภาพที่เป็นจุดเชื่อมต่อด้านการขนส่งสินค้าในประเทศไทยอยู่ใกล้กรุงเทพและพื้นที่ EEC สามารถเชื่อมต่อทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง ถนนสายหลักไปยังพื้นที่ EEC ได้สะดวก โดยเป็นโครงการคลังสินค้าและโรงงานที่มีพื้นที่เช่าอาคารรวมทั้งหมด 159,963 ตารางเมตร มีสัญญาเช่าเฉลี่ยจากผู้เช่าชั้นนำระยะยาว และผู้เช่าหลักปัจจุบันคือ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด, บริษัท เคอรี่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด   

ทั้งนี้ ภายหลังจากการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้แล้วเสร็จ จะส่งผลให้ กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ แตะที่ระดับกว่าประมาณ 52,406.83 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 1,743,681.80 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนที่จอดรถ 32,650.19 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าหลังคา 450,777.29 ตารางเมตร  ซึ่งทำให้กองทรัสต์ WHART เป็นหนึ่งในกองทรัสต์ Industrial ที่ใหญ่ที่สุดในไทย