กระแสการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Wellness Tourism เริ่มเป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศและฟื้นฟูสุขภาพไปพร้อมกับการท่องเที่ยว

wellness คืออะไร?

    เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา และสังคม และถูกนำมาปรับใช้ในด้านของธุรกิจ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  เวชศาสตร์ป้องกัน โภชนาการเพื่อสุขภาพ สปา การชะลอวัย การออกกำลังกายและจิตใจ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพโภชนาการ และการลดน้ำหนัก การดูแลส่วนบุคคล ความงาม การชะลอวัย รวมทั้งการแพทย์แผนดั้งเดิมและการแพทย์ทางเลือก และอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ เป็นต้น 

8 รูปแบบ Wellness Tech

1. อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) ให้บริการด้านการจัดจำหน่ายวัตถุดิบและอาหารแบบออร์แกนิก พร้อมการจัดส่งถึงหน้าบ้าน เป็นต้น

2. วิตามินและอาหารเสริม (Vitamins & Supplement) พัฒนารูปแบบธุรกิจ โดยการคัดเลือกวิตามินที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล

3. โภชนาการอาหารเพื่อการออกกำลังกาย (Active Nutrition) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อผู้ชื่นชอบการออกกำลังกาย ซึ่งมีความต้องการอาหารเสริมทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย ทั้งในด้านการสร้างกล้ามเนื้อ หรือเพิ่มการเผาผลาญให้กับร่างกาย

4. เทคโนโลยีทางโภชนาการ (Nutrition Tech) มุ่งเน้นไปที่ออกแบบระบบโภชนาส่วนบุคคล เพื่อให้รูปแบบการบริโภคเหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล

5. ฟิตเนส (Fitness) การวางโปรแกรมการฝึกเพื่อให้ทุกคนสามารถเล่นฟิตเนสได้อย่างมีประสิทธิภาพจากที่บ้าน

6. การนอนหลับ (Sleep) นำเสนอเทคโนโลยีด้านการนอนหลับ  เพื่อให้ผู้คนนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

7. สุขภาพจิต (Mental Wellness) มีสตาร์ทอัพที่ช่วยให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตจากผู้เชี่ยวชาญ

8. การรท่องเที่ยวและบริการเชิงสุขภาพ (Travel & Hospitality) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เช่น การจัดโปรแกรมดูแลออกกำลังกาย พร้อมกับพักผ่อนในสถานที่ต่างๆ

“BDMS” จับมือ “Celes Samui” เปิดเวลเนส ดึงนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

    นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ร่วมเปิดตัวโครงการ “BDMS Wellness Clinic Retreat” บริการการแพทย์ระดับพรีเมี่ยม  และโปรแกรมการพักผ่อนเพื่อขับเคลื่อน ซึ่งทาง BDMS ได้จับมือร่วมกับ “CELES Beachfront Resort” ที่มีทำเลของรีสอร์ทตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและทะเลที่สวยงามของหาดบ่อผุดที่มีทรายขาวโค้งเป็นแนวยาว ผสมผสานกับวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

BDMS เล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตธุรกิจ Wellness เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยงที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ โดยเฉพาะเกาะสมุยที่ติดอันดับ 2 ประเภทเกาะที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนิตยสารท่องเที่ยว Travel+Leisure ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผลสำรวจการนับคะแนนโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก รางวัลยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2022 (Asia’s Best Awards 2022) สมุยมีความพร้อมทางด้าน Wellness Tourism เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นจากความพร้อมของโรงพยาบาลกรุงเทพสมุย ซึ่งอยู่ในเครือข่ายกลุ่ม BDMS ที่เปิดให้บริการรองรับนักท่องเที่ยว งนั้น เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแล้วสำหรับการเป็นหนึ่งใน Destination ขานรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างแท้จริง

            นอกจากสมุยแล้ว BDMS ได้เข้าซื้อที่ดิน และอาคารโรงแรมปาร์คนายเลิศย่านถนนวิทยุ มูลค่ากว่า 1.28 หมื่นล้านบาท พื้นที่ 15 ไร่ เพื่อเนรมิตเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจรใจกลางเมือง อีกทั้ง BDMS ยังได้เช่าพื้นที่ระยะยาวจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ย่านหัวมุมถนนสารสินและถนนหลังสวน ทุ่ม 2.35 หมื่นล้าน ผุดโครงการ BDMS Silver Wellness& Residence

เชวาลา เวลเนส หัวหิน  รับเทรนด์ “เวลเนส ทัวริซึ่ม”

    “หัวหิน” นับเป็นทำเลพรีเมียมเปี่ยมศักยภาพ ด้วยจุดเด่นของการเป็นเมืองพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ คมนาคมสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ตลาดเวลเนสและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในหัวหินยังมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

    CHEVALA Wellness Hua Hin (เชวาลา เวลเนส หัวหิน) จุดหมายปลายทางล่าสุดแห่งการท่องเที่ยวพร้อมดูแลสุขภาพแบบครบวงจร โดดเด่นด้วย 5 โปรแกรมที่ฟื้นฟูสุขภาพและความงามแบบองค์รวมในแต่ละด้าน ซึ่งทุกโปรแกรมจะถูกออกแบบด้วยแพทย์เฉพาะทางเพื่อลูกค้าแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ​ (Customize) ทำให้การรักษาบำบัดเป็นไปอย่างตรงจุด โดยการเข้ารับบริการทั้งหมดอยู่ภายใต้บรรยากาศส่วนตัวของรีสอร์ทหรูริมทะเลและเวลเนสดีไซน์สวยงาม

มีบริการแพ็กเกจห้องพักและอาหารเพื่อสุขภาพของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆ ในหัวหิน เช่น ชีวาศรม และศูนย์ดูแลสุขภาพ VLCC ที่อวานี พลัส หัวหิน รีสอร์ท

            เชวาลา” ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มตระกูล ลิปตพัลลภ  ได้ตั้งเป้าขยายธุรกิจรวม 5 แห่งในช่วง 2 ปีนี้ กระจายตามเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย โดยในปี 2565 หลังจากปักธง “หัวหิน” เป็นแห่งแรก ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าบลูพอร์ต มีทางเชื่อมกับโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท (โรงแรมในกลุ่มบริษัท พราว กรุ๊ป)

    ช่วงปลายปีนี้ จะเปิดตัวเชวาลาแห่งที่ 2 ใน “ภูเก็ต” ส่วนปี 2566 จะขยายแห่งที่ 3 ไปยัง “เกาะสมุย” แบบสแตนด์อะโลน (Stand Alone) ต่อด้วยที่ “เชียงใหม่” กับ “พัทยา” เป็นแห่งที่ 4 และ 5 ตามลำดับ ด้านแผนขยายธุรกิจของเชวาลาใน “ต่างประเทศ” จะเริ่มในปี 2567 สัดส่วนการสร้างรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 20% ส่วนในไทยยังคงเป็นฐานรายได้หลักที่ 80% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า