ธ.ก.ส. เติมทุนกว่า 3,000
ล้านบาท
หนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและแข่งขันในตลาดผ่านโครงการลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเล
รายละไม่เกิน 3 ล้านบาท ชำระคืนภายใน 10 ปี
ดอกเบี้ย MRR / MLR ตามประเภทลูกค้า เพื่อเสริมสภาพคล่องในการลงทุน
ทั้งการผลิตและส่งออกกุ้งให้กับเกษตรกร
ช่วยลดปัญหาการก่อหนี้นอกระบบที่เป็นภาระหนัก
นายสมเกียรติ กิมาวหา
รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
และภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง
เนื่องด้วยต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งด้านอาหาร
พลังงานและปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคในกุ้งทะเล ทำให้การผลิตและส่งออกกุ้ง
ทั้งขนาดและปริมาณไม่เป็นไปตามความต้องการของตลาด จากปัญหาดังกล่าว
รัฐบาลจึงวางนโยบายในการแก้ไขปัญหาในภาคการผลิตของอุตสาหกรรมกุ้งทะเลอย่างยั่งยืนด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วยและลดต้นทุนการผลิตด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างฟาร์ม
เป็นต้น ธ.ก.ส. จึงได้ขยายโครงการลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมกุ้งทะเลอย่างยั่งยืน
ปี 2564 (เพิ่มเติม)
เพื่อสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งให้เข้าถึงเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ป้องกันการก่อหนี้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงอย่างไม่เป็นธรรม
อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบอาชีพและการแข่งขันกับประเทศผู้ผลิตอื่น
สำหรับเงื่อนไขผู้เข้าร่วมโครงการ
ต้องเป็นเกษตรกรหรือนิติบุคคลผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลในพื้นที่จังหวัดที่เหมาะสมในการเลี้ยงกุ้งทะเล
35 จังหวัด โดยการลงทุนลดต้นทุนการผลิต เช่น
การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ระบบควบคุมเครื่องเติมอากาศอัจฉริยะ (Smart
Energy) การติดตั้งอุปกรณ์ช่วยประหยัดพลังงานสำหรับฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล
หรือการปรับปรุงโครงสร้างฟาร์มหรือบ่อเลี้ยงกุ้งทะเล โดยจำกัดวงเงินรายละไม่เกิน 3
ล้านบาท วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้กู้รายคน MRR
ต่อปี และสำหรับผู้กู้นิติบุคคล MLR ต่อปี
โดยเรียกเก็บจากผู้กู้ MRR – 3 หรือ MLR – 3
ตามประเภทของผู้กู้ (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50
ต่อปี และ MLR เท่ากับร้อยละ 4.875
ต่อปี) และกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชดเชยดอกเบี้ยให้ธนาคารในอัตราร้อยละ 3
ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี กำหนดการชำระคืนภายใน 10
ปีนับจากวันที่ทำสัญญา ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อตั้งแต่บัดนี้ถึง 20
พฤษภาคม 2569 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว
สนับสนุนสินเชื่อไปแล้วกว่า 12 ล้านบาท
สำหรับลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 02 555 0555