ไอ-เทล ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 660 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITCบริษัทแฟล็กชิพของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ด้านผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ..สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 660 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 22ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ ประกอบด้วย การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยไทยยูเนี่ยนจำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

 

ไอ-เทล เป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ และเป็นผู้นำธุรกิจ OEM ในการผลิตอาหารแมวและสุนัขของประเทศไทย   รวมถึงเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง อันดับ ในเอเชีย และเป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรก ของผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงของโลก โดยที่กลุ่มไทยยูเนี่ยนได้เริ่มดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2520 และต่อมาได้มีการปรับโครงสร้างให้ ITC เป็นบริษัทแกนนำในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ในปี 2564 เพื่อเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจจากปัจจุบันที่มีพอร์ตฟอลิโออาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมี่ยมกว่า 4,600 รายการ ซึ่งจัดจำหน่ายใน 45 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งธุรกิจการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงให้กับแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำระดับโลก รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของ ไอ-เทล ได้แก่ BellottaMarvoChangeTer, Calico Bay และ Paramount

 

สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ประกอบด้วย 1.ใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายกำลัการผลิตปรับปรุประสิทธิภาพการผลิต และขยายโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต รวมไปถึงการปรับปรุงโรงงานให้ทันสมัยด้วยระบบและเครื่องจักรอัตโนมัติ และระบบคลังสินค้าและติดฉลากอัตโนมัติ (Automated Warehousing and Labelling System) 2.ใช้ในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ 3.เพื่อใช้ชำระหนี้เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงิน 4.เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

 

ทั้งนี้ หุ้นสามัญที่จะเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวนไม่เกิน 660 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 22ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยจะจัดสรรหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 132 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ TU เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นใน TU เพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptiveRights) ทั้งนี้ ไอ-เทล มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ

 

ปัจจุบัน ไอ-เทล มีทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาทเป็นทุนชำระแล้ว 2,400 ล้านบาท โดยมีไทยยูเนี่ยนเป็นผู้ถือหุ้นหลักในสัดส่วน 99.78และจะปรับลดสัดส่วนเหลือ 77.82หลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ทั้งนี้ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ของ ไอ-เทล ไทยยูเนี่ยนจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และพร้อมสนับสนุน ไอ-เทล ในสถานะเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มไทยยูเนี่ยนเช่นเดิม

 

ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไอ-เทล สามารถสร้างการเติบโตด้านยอดขายอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ15% จาก 10,955 ล้านบาทในปี 2562 เป็น 14,529ล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGRของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกที่อยู่ที่ 5.8%* ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559-2564โดยมีผลกำไรสุทธิเติบโตขึ้นจาก1,695 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 2,721 ล้านบาทในปี 2564 หรือเฉลี่ยปีละ 27%