บ้านปู เพิ่ม New S-Curve ในพอร์ต ลงทุนในกองทุนเฮลธ์แคร์ในสหรัฐอเมริกา


บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชนผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ขยายการลงทุนผ่านกองทุน Public US-based Healthcare Investment Fund ในรูปแบบ Founding Limited Partner เป็นจำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเท่าประมาณ 4,995 ล้านบาท) เน้นการลงทุนในหุ้นทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพหรือเฮลธ์แคร์ (Healthcare) ในประเทศสหรัฐอเมริก ตามแนวทางกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งแสวงหาโอกาสเพิ่มNew S-Curve ที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตสูงด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมเดินหน้าสู่มิติใหม่ของการเป็นผู้นำธุรกิจที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนทั่วโลก (Life-Betterment)

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการอุบัติของโรคใหม่  เกิดขึ้นตลอดเวลา ประกอบกับแนวโน้มที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญและตระหนักถึงการดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจการดูแลสุขภาพกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจNew S-Curve ที่มีศักยภาพเติบโตด้านการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ และสหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดด้านเฮลธ์แคร์ขนาดใหญ่ที่มีอัตราเติบโตสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีด้านเวชภัณฑ์ระดับโลก การลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของการเน้นย้ำในเรื่อง Antifragility ของบ้านปู ที่ให้ความสำคัญกับการคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่  จากความท้าทายทุกรูปแบบที่โลกกำลังเผชิญอยู่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดครั้งใหม่ (S-Curve) โดยมุ่งเน้นการลงทุนธุรกิจที่มีศักยภาพสูง มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี มีความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการวางรากฐานเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาความเชี่ยวชาญในสาขาธุรกิจใหม่  ที่จะนำไปสู่การขยายพอร์ตธุรกิจของบ้านปูให้หลากหลายมากขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มควบคู่ไปกับแผนการเติบโตของฐานธุรกิจด้านพลังงานในปัจจุบัน

โดยช่วงแรกของการลงทุนในธุรกิจเฮลธ์แคร์ บริษัทฯ จะเน้นลงทุนในหุ้นทางการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจยา(Biopharma) ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นคุณภาพการผลิตครอบคลุมไปถึงการแพทย์แบบจำเพาะบุคคล (Personalized Medicine) เพื่อการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสภาวะด้านสุขภาพของผู้บริโภคแต่ละบุคคล ซึ่งรูปแบบของผลิตภัณฑ์และบริการทางสุขภาพดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการใช้บริการทางสุขภาพในอนาคต โดยเฉพาะในประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านนวัตกรรมทางการแพทย์อย่างสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน ตลาด Biopharma ทั่วโลกมีอัตราการเติบโตสูง โดยคาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2026 และอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (Compound Average Growth Rate: CAGR) ในช่วงปี 2021-2026 ที่ประมาณ 6.4% ซึ่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง จึงนับเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งในระยะยาว

สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญ ซึ่งบ้านปูได้พัฒนาความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติทั้งต้นน้ำและกลางน้ำ การลงทุนในกองทุนเฮลธ์แคร์ในสหรัฐอเมริกา นับเป็นการพัฒนาเชิงกลยุทธ์อีกก้าวที่บริษัทฯ ขยายการเติบโตจากอุตสาหกรรมพลังงาน ไปสู่อุตสาหกรรมยาและการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ เรายังคงมุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่เปี่ยมศักยภาพ สอดคล้องไปกับเทรนด์การพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ และตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยง ตลอดจนเสริมสร้างการเติบโตของรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต นอกจากนั้น การลงทุนของบ้านปูยังคงยึดมั่นในหลักความยั่งยืนหรือ ESG ภายใต้แนวทาง Life-Betterment เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน” นางสมฤดีกล่าวปิดท้าย