บสย.ลงนาม 18 สถาบันการเงินลุยโครงการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย” ช่วยธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุน-ปรับโครงสร้างหนี้ คาดมีผู้ประกอบการจ่อคิวร่วมโครงการทะลุ 1 หมื่นราย
ดร.อุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ18 สถาบันการเงิน ภายใต้โครงการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทยว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกและประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับความผันผวนจากปัจจัยรอบด้าน การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาท สงครามการค้า ย่อมจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ SMEs ไทยอย่างแน่นอน ดังนั้นรัฐบาลได้เร่งออกมาตรการช่วยเหลือ SMEs ให้มีสภาพคล่อง โดยมีความร่วมมือที่เข้มแข็งกับสถาบันการเงิน 18 แห่ง ตอกย้ำการแสดงเจตจำนงในขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งทุน โดยใช้เครื่องมือของรัฐเป็นกลไกสำคัญ โดยจัดสรรวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 60,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายช่วยผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจให้เดินต่อไปได้ ภายใต้มาตรการนี้ยังได้ผ่านการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนปัญหาและอุปสรรครอบด้าน ระหว่างรัฐบาลกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และบสย. สู่การปลดล็อคครั้งใหญ่ ปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบสย.ได้แก่ การรับความเสียหายเพิ่มจาก 30% เป็น 40% เพื่อให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบอย่างสบายใจ และเสริมสภาพคล่องให้กับต่อลมหายใจให้ธุรกิจได้ รัฐบาลจะใช้กลไกของการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ช่วยเติมทุนให้ SMEs สามารถเข้าสู่ระบบสินเชื่อ ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าปกติ จากสถาบันการเงินที่ร่วมลงนามทั้ง18 ธนาคาร ด้วยความมั่นใจ มีเงินทุนเข้าสู่ระบบ 180,000 ล้านบาทช่วยผู้ประกอบการได้ 142,000 ราย โดยรัฐบาลจะติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นไปตามเจตนารมณ์เห็นผลจริงโดยเร็ว"
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะตอกย้ำความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในการเข้าถึงแหล่งทุน คาดว่าจะมีผู้ประกอบการล็อตแรกกว่าหมื่นรายเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากเป็นโครงการช่วยเสริมสภาพคล่อง เติมเงินทุนหมุนเวียน สำหรับผู้ประกอบการที่มีปัญหาผ่อนชำระหนี้ หรืออาจกำลังจะเป็นหนี้ NPL ได้ขยายระยะเวลา ได้เงินทุน ต่อลมหายใจธุรกิจหรือ ในกลุ่มที่มีศักยภาพ สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ หรือในกิจการที่กำลังต้องการเสริมสภาพคล่องโดย บสย.และธนาคารพันธมิตร จะช่วยให้คนกลุ่มนี้เดินหน้าได้ต่อไป
ส่วน SMEs กลุ่มที่กำลังจะถึงทางตัน ชำระล่าช้า หรือกำลังอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ บสย. และ 18 สถาบันการเงิน จะช่วยSMEs เปลี่ยนจากการฟ้องมาเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ โดยสถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุน คาดว่าจะมีผู้ประกอบการอีกหลายหมื่นรายสนใจเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ นอกจากนี้ได้ขยายระยะเวลาการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะ 5-7 บสย. ออกไปอีก 5 ปี เพื่อให้ SMEs กลุ่มนี้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดย บสย.และธนาคารจะร่วมกันช่วยโดยการเข้าสู่การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการร่วมโครงการเต็มจำนวนเป้าหมาย 28,000 ราย