กองทรัสต์ KTBSTMR เผยผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2565 มีกำไรจากการลงทุนเติบโต 55.59 ล้านบาท เตรียมจ่ายผลตอบแทน ‘0.1733 บาทต่อหน่วยทรัสต์’ ผู้ถือหน่วย เฮ เตรียมรับเงินวันที่ 9 มิถุนายน2565 ระบุ เศรษฐกิจฟื้นจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หนุนอัตราการเช่าสินทรัพย์ในปี 2565 เติบโต ผู้บริหารเน้นย้ำ มุ่งขยายฐานผู้เช่าคุณภาพรายใหม่เข้าในโครงการต่อเนื่อง
นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคทีบีเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ ‘KTBST REIT’ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ KTBSTMR รอบไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2565 (วันที่ 1 ม.ค. 2565 – 31 มี.ค. 2565) มีรายได้รวมอยู่ที่ 77.91/1 ล้านบาท และมีกำไรจากการลงทุนจำนวน 55.59/1 ล้านบาท
ดังนั้น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เคทีบีเอสที มิกซ์ หรือ ‘KTBSTMR’ ได้พิจารณาจ่ายประโยชน์ตอบแทน สำหรับรอบผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565 ในอัตรา0.1733 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยกำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2565
ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้กองทรัสต์ KTBSTMR มีผลการดำเนินงานที่เติบโต มาจากพื้นที่เช่าและอัตราการเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอัตราการเช่าเฉลี่ยไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2565 (1 ม.ค. 2565 – 31 มี.ค. 2565) โดยรวมทุกโครงการอยู่ที่ 94.71% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 0.14% ซึ่งในส่วนของโครงการโกดังและคลังสินค้ามีอัตราการเช่าเกือบ 100.00% ตลอดช่วงการดำเนินงานทั้งไตรมาส ส่วนอัตราการเช่าโครงการอื่นมากกว่า 90.0% ทุกโครงการ สะท้อนถึงศักยภาพของการบริหารและคุณภาพของสินทรัพย์ที่มีความต้องการเช่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากช่วงปีที่ผ่านมาไม่เพียงเท่านั้น ภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในโครงการศูนย์รับฝากข้อมูล INTERLINK DATA CENTER มูลค่า 750.00 ล้านบาท ส่งผลให้ทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของกองทรัสต์KTBSTMR มีมูลค่ารวมกว่า 3,765.00 ล้านบาท ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์รวม 5 ประเภทอุตสาหกรรมได้แก่ 1) โกดังและคลังสินค้า (Warehouse), 2)โรงงานอุตสาหกรรม (Factory), 3) สำนักงานให้เช่า (Office), 4) คอมมูนิตี้มอลล์ (Retail) และ 5.) ศูนย์รับฝากข้อมูล (Data Center) แบ่งออกเป็นดังนี้
อาคารโรงงาน (Factory) และคลังสินค้า (Warehouse) รวม 3 โครงการ บนพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 1.22 แสนตารางเมตร โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย ได้แก่สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา อาคารสำนักงาน (Office) 1 โครงการ อาคารคอมมูนิตี้มอลล์(Community Mall) 1 โครงการ บนพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 1 หมื่นตารางเมตร ตั้งอยู่ในใจกลางย่านธุรกิจและการค้าบนทำเลพระโขนง ติดรถไฟฟ้า BTS และ 4.) อาคารโครงการศูนย์รับฝากข้อมูล 1 โครงการ
นายพลสิทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินงานในปี 2565 ยังมั่นใจว่า ‘กองทรัสต์ KTBSTMR’ จะยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการบริหารงานเชิงรุก ประกอบกับอานิสงส์ของสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่คลี่คลายและดีขึ้นมากในปีนี้ ส่งผลบวกต่อธุรกิจโลจิสติกส์และธุรกิจที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่ง รวมถึงอีคอมเมิร์ซ , ค้าปลีก , สำนักงานและศูนย์รับฝากข้อมูล เติบโตอย่างโดดเด่น และทำให้กองทรัสต์ KTBSTMR เติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น
“คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยภาคธุรกิจภายในประเทศจะฟื้นตัวจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของกองทรัสต์เราจึงสามารถบริหารจัดการกองทรัสต์ KTBSTMR ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งตลอดช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังไม่หมดไป และมีความท้าทายเรื่องระบาดสายพันธุ์ใหม่ แต่เราสามารถรักษาอัตราการเช่าไว้ใด้ในระดับสูง และยังคงมุ่งขยายฐานผู้เช่าคุณภาพรายใหม่เข้ามาในโครงการต่อไป” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTBST REIT กล่าว
อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจกองทรัสต์ KTBSTMR เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจกองทรัสต์ KTBSTMR สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากบริษัท เคทีบีเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผ่าน KTBST Group Contact Center 02-351-1800 กด 3