บลจ.วี มองธีม “ความปลอดภัย” มาแรง สร้างโอกาสรับผลตอบแทนดีในระยะยาว
พร้อมเปิดขาย IPO “กองทุนเปิด วี โกลบอล ซีเคียวริตี้ อิควิตี้ (WE-GSECURE)” ลงทุนบริษัทชั้นนำด้านความปลอดภัยกับการใช้ชีวิตสังคมและสิ่งแวดล้อมยั่งยืนทั่วโลก
“ธีม ความปลอดภัยมาแรง บลจ.วี สบจังหวะตลาดกำลังรับปัจจัยบวกเปิดขาย (IPO) “กองทุนเปิด WE-GSECURE” ระหว่างวันที่ 24-30 ม.ค.2563 เน้นลงทุนทั่วโลกใน 5 ธีมธุรกิจที่สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยกลยุทธ์จากบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลก Credit Suisse Asset Management ผู้เชี่ยวชาญด้านธีมลงทุนระยะยาวในหุ้นกลุ่มธุรกิจความปลอดภัยและเติบโตยั่งยืน”
นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (บลจ.วี) เปิดเผยว่า หลังจากที่ บลจ.วี ได้นำเสนอ กองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไปในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งกองทุน WE-GTECH8M สามารถทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมาย 8% ตามที่ตั้งเป้าไว้ ก่อนครบอายุกองทุนถึง 2 เดือน จากราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับการเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคสังคมจะสร้างโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้า ได้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง บลจ.วี มีมุมมองว่า ธีมการลงทุนในหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปีเป็นธีมการลงทุนที่ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมจากปัจจัยพื้นฐานโดยจะเห็นได้ว่าความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นสิ่งสำคัญที่บุคคลให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคดิจิทัลปัจจุบันที่มีการเชื่อมต่อถึงกันทั่วโลก ทำให้ผู้บริโภคซึ่งมีการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในโลกไซเบอร์ รวมถึง ภาครัฐและภาคธุรกิจต่างตระหนักถึงความสำคัญ และระมัดระวังความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์มากขึ้น การถูกโจมตีทางไซเบอร์ หรือจารกรรมข้อมูลสามารถสร้างความเสียหายทางการเงินในจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ความต้องการในผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อปกป้องทรัพย์สินและชีวิตเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน การติดต่อสื่อสารทางเทคโนโลยีและฐานข้อมูล รวมถึง ความปลอดภัยในกระบวนการห่วงโซ่อาหาร น้ำ ดินและสภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อม
“เราคาดว่า ธุรกิจในกลุ่มสินค้าปลอดภัยจะเติบโตในอัตราประมาณ 5-8% ต่อเนื่องจนถึงปี 2025 ซึ่งนับเป็นช่วงเริ่มต้นของการเติบโตในธุรกิจกลุ่มดังกล่าว โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่ผลักดันให้การลงทุนกลุ่มดังกล่าวเติบโต ได้แก่ 1.) การเพิ่มขึ้นของประชากรโลกอย่างต่อเนื่อง มีการเคลื่อนย้ายของประชากรและการเติบโตของสังคมเมือง รวมถึงGlobalization ทำให้ความความเสี่ยงในการใช้ชีวิตและทรัพย์สินของครอบครัว การทำธุรกิจ และความต้องการความปลอดภัยในสังคมเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว 2.) แนวโน้มการเติบโตของสังคมเมืองทำให้รัฐบาลต้องเข้มงวดด้านกฎระเบียบเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน สินค้า เงินทุนและการป้องกันอาชญากรรม รวมถึงความเข้มงวดของกฎหมายในสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ อาหาร น้ำ และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และ 3.) แนวโน้มการเติบโตของสังคมดิจิทัลที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันบนเครือข่าย การใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันซับซ้อนมากขึ้น ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล การจารกรรมในโลกไซเบอร์ ทำให้ความต้องการความปลอดภัยและมาตรฐานของระบบต่างๆ อาทิเช่น สาธารณูปโภคพื้นฐาน กลุ่มสินค้าที่ใช้นวัตกรรมการผลิตใหม่ๆ เช่น การใช้หุ่นยนต์ และการพัฒนาทางการแพทย์ ซึ่งเรามองว่าลักษณะดังกล่าวเป็น Super Trend ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
เพื่อสร้างโอกาสการลงทุน บลจ.วี จึงเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด วี โกลบอล ซีเคียวริตี้ อิควิตี้ (WE-GSECURE) ระหว่างวันที่ 24-30 ม.ค. 2563 โดยกองทุนจะลงทุนผ่านกองทุนหลัก CS Investment Fund2 –Credit Suisse (Lux) Security Equity Fund Class IB ซึ่งบริหารจัดการโดย Credit Suisse Asset Management ซึ่งมีทีมลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนระยะยาวในหุ้นกลุ่มธุรกิจความปลอดภัยและเติบโตยั่งยืน
ทั้งนี้ กองทุนหลักเน้นลงทุนในบริษัทที่มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยใน 5 กลุ่มดังนี้ 1.) ด้านเครือข่าย ระบบเทคโนโลยีและข้อมูล 2.) ด้านการป้องกันอาชญากรรม 3.) ด้านการเดินทางและขนส่งมวลชน 4.) ด้านสุขภาพ และ 5.) ด้านสิ่งแวดล้อม โดยเลือกลงทุนในหุ้นประมาณ 40-60 บริษัทในกลุ่มดังกล่าว
กองทุนหลักใช้ 3 กลยุทธ์หลักในการคัดเลือกหลักทรัพย์ ได้แก่ 1. Pure-play investments เลือกหลักทรัพย์ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 50% จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย 2. คัดเลือกหุ้นแบบ Bottom Up โดยการวิเคราะห์หลักทรัพย์ตามปัจจัยพื้นฐาน โดยเน้นลงทุนระยาวประมาณ 7-10 ปี โดยกลุ่มหุ้นที่เลือกลงทุนต้องผ่านเกณฑ์ด้าน ESG ในแง่ของการทำธุรกิจยั่งยืนในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนของ Credit Suisse Asset Management ส่งผลให้กองทุนหลักมีผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดย ณ วันที่ 30 พ.ย. 2019 ที่ผ่านมากองทุนหลักให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ 8.3% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.6% และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 29.2% เทียบกับดัชนี MSCI World ESG Leader อยู่ที่ 7.7% 13.7% และ 24.8% ตามลำดับ*
เมื่อพิจารณาจากกลยุทธ์การลงทุนและผลตอบแทนในอดีต กองทุนWE-GSECURE จึงเป็นอีกธีมการลงทุน ที่ บลจ.วี แนะนำ ในจัดพอร์ตลงทุนในปี 2563 ซึ่งคาดว่าความผันผวนของตลาดยังมีอยู่ในระดับสูงการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานรองรับการเติบโตจากความต้องการของมนุษย์ จะสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจได้ปัจจัยบวกจากข้อตกลงทางการค้าและความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยุติความรุนแรง จึงเป็นจังหวะสำหรับการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่ด้านความปลอดภัยที่กำลังเติบโตพร้อมๆ กับการขยายตัวของการใช้เทคโนโลยีที่ต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั่วโลก