สถานการณ์เกี่ยวกับสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนนั้นยังตึงเครียดและไม่รู้จะจบลงเมื่อไร อีกทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรปก็ได้มีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซียในการถอนถอนธนาคารรัสเซียออกจากเครือ SWIFT และอายัดทรัพย์สินของรัสเซียในธนาคารต่างประเทศทั้งหมด ทำให้ค่าเงินรูเบิลรัสเซียนั้นอ่อนค่าลงถึง 30% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว
นอกจากที่ทางธนาคารในรัสเซียเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 20% แล้ว ทาง Nikolai Arefiev รองผู้ว่าการรัฐดูมาจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (CPRF) ได้เปิดเผยว่าเงินทุนที่ชาวรัสเซียวางไว้จะถูกนำไปใช้ในกรณีที่เศรษฐกิจตกต่ำ อ้างอิงจาก news.ru
Nikolai Arefiev กล่าวว่า “หากพวกเขาปิดกั้นเงินทุนทั้งหมดที่อยู่ต่างประเทศ รัฐบาลก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยึดเงินฝากทั้งหมดของประชากรซึ่งมีประมาณ 60 ล้านล้านรูเบิล ทั้งหมดนี้เพื่อควบคุมสถานการณ์”
โดยเงินสดที่ได้มานั้น รัฐบาลรัสเซียจะใช้มันเพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้กับพลเมืองของตนเอง แต่สำหรับระยะเวลาการชำระเงินคืนให้ประชาชนนั้น Nikolai Arefiev กล่าวว่า “ห้าชั่วอายุคนเลยจนกว่ารัฐบาลจะชำระ เมื่อถึงเวลานั้นอัตราเงินเฟ้อจะกลืนกินสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด”
การแถลงครั้งนี้ของรัฐบาลรัสเซียสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนชาวรัสเซียเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวรัสเซียต้องการที่จะปกป้องเสรีภาพทางการเงินของตัวเอง ทำให้ชาวรัสเซียหาทางที่จะรักษาเงินของพวกเขาให้ปลอดภัย โดยการเข้ามาซื้อ Bitcoin (BTC) เนื่องจากเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไร้ตัวกลาง และ หน่วยงานรัฐในรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงได้
ตอนนี้ความต้องการในการซื้อ BTC-RUB ในรัสเซียนั้นสูงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์แล้ว
อ้างอิง: https://finance.yahoo.com/.../russia-seize-60t-rubles...