KEX ปิดปี 2564 ทำลายสถิติยอดจัดส่งพัสดุโตสูงสุด
30% ผู้นำการตั้งราคาใหม่ในท้องตลาด
ลงทุนในกำไรระยะสั้นเพื่อการเติบโตระยะยาว ประกาศจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ต่อเนื่อง
KEX โชว์ปริมาณการจัดส่งพัสดุด่วนประจำปี
2564 เติบโต 30% จากปีก่อน ดันรายได้สู่ 18,818 ล้านบาทใกล้เคียงกับรายได้ปี 2563 แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในปี
2564 จะมีผลกระทบจากปัจจัยลบและความไม่แน่นอนหลายประการ
โดยตลอดปี 2564 KEX ดำเนินกลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุกเพื่อครองตำแหน่งผู้นำตลาดจัดส่งพัสดุด่วนในไทย พร้อมลงทุนในระยะสั้นเพื่อรักษามาตรฐานการบริการอันดับหนึ่งและสร้างข้อได้เปรียบได้ระยะกลางถึงระยะยาว
เดินหน้าประกาศร่วมลงทุนกับพันธมิตรรายใหญ่เพื่อขยาย ecosystem ให้ครอบคลุมต่อความต้องการของลูกค้า และเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายตลาด
ปั้นรายได้เพิ่มเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง
นายอเล็กซ์ อึ้ง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ
KEX เปิดเผยว่า “จากกลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุกเพื่อครองความเป็นผู้นำตลาดขนส่งพัสดุด่วน
ทำให้ยอดจัดส่งพัสดุเติบโตเป็นที่น่าประทับใจ เติบโตกว่า 30% จากปีก่อนหน้า ดึงส่วนแบ่งตลาด และมีผู้ใช้บริการรายเดือนเพิ่มขึ้น
32% ส่งผลให้รายได้ประจำปี 2564
เท่ากับ 18,818 ล้านบาท อีกทั้งด้วยการให้บริการในราคาที่เข้าถึงได้
ทำให้ KEX ขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ทุกกลุ่มตลาดทั้งตลาด e-commerce, social และ live-stream commerce โดยเราลงทุนในกำไรในระยะสั้นเพื่อการเป็นผู้นำในระยะยาว แม้ในช่วงปีที่ผ่านมาจะมีผลกระทบจากปัจจัยภายนอกมากมาย
ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้าและโอมิครอน
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตลาดแรงงานที่ขาดแคลน
และตลาด e-Commerce และ social commerce
ในช่วงไตรมาสที่ 4 อ่อนแอลง ทั้งนี้ KEX รายงานกำไรสุทธิส่วนของผู้เป็นเจ้าของบริษัทประจำปี 2564 เท่ากับ 47 ล้านบาทซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ เนื่องจาก KEX ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเพิ่มยอดจัดส่งพัสดุและขยายฐานลูกค้าเพื่อครองความเป็นผู้นำตลาดและยึดมั่นในคุณภาพการให้บริการอันยอดเยี่ยม
บริษัทฯ เตรียมความพร้อมด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยเพื่อรองรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิดทั่วประเทศโดยเฉพาะเชื้อสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนที่มีการแพร่กระจายที่รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น
ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของกระบวนการจัดส่งดังเช่นที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการหลายรายในตลาด
ซึ่งส่งกระทบต่อความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียงในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นเราต้องมีมาตรการป้องกันด้านแรงงานขั้นสูงสุด
โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มจากการจัดให้มีทรัพยากรสำรองและเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจัดส่งพัสดุตามยอดจัดส่งพัสดุที่เพิ่มขึ้น
เรามั่นใจว่าการมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นจะทำให้เราเป็นผู้นำและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะปรับตัวลดลงเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายขึ้น”
ตลอดปีที่ผ่านมา KEX มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารจัดการผ่านการอัพเกรดแพลตฟอร์ม
เราพัฒนาแพลตฟอร์มและการจัดการเส้นทางขนส่งโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยการดำเนินงานและการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ในปี 2565 KEX ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายในและการยกระดับแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุให้เป็นไปอย่างเข้มข้นตลอดทั้งปี
ร่วมกับกลยุทธ์การมุ่งหาพันธมิตรที่มีจุดแข็งในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ
อันได้แก่ ความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจชุมชนผ่านโมเดลตัวแทน หรือ reseller
model เปิดตัว Orange Express เพื่อขยายเครือข่ายและจุดให้บริการอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ KEX ได้ประกาศความร่วมมือกับ Grab Thailand
เปิดบริการ "รับพัสดุถึงหน้าบ้านแบบทันที" และ “รับพัสดุถึงหน้าบ้านแบบรายชั่วโมง”
ถือเป็นความร่วมมือแบบ win-win ที่ใช้จุดแข็งและทรัพยากรที่มีอยู่ของทั้ง
2 บริษัทสร้างประสบการณ์ใหม่ ความสะดวกสบาย
และความรวดเร็วให้แก่ลูกค้าในราคาที่จับต้องได้ โดยปราศจากต้นทุนส่วนเพิ่ม
ซึ่งทำให้ “ปัจจุบันเรามีจุดให้บริการกว่า 29,000 แห่งทั่วประเทศและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ด้วยกลยุทธ์การกระจายการลงทุนสู่ธุรกิจอื่น ๆ KEX ยังตอกย้ำจุดยืนการขยายธุรกิจและควบรวมกิจการทั้งในแนวตั้งและแนวนอน
เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน สร้างกำไรและการเติบโตทั้งจากธุรกิจหลักและธุรกิจอื่น
ๆ โดยในปีที่ผ่านมา KEX ร่วมทุนกับเครือเบทาโกร ภายใต้แบรนด์
KERRY COOL ดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิอันล้ำสมัย
ด้วยมาตรฐานที่ดี และการบริการที่น่าเชื่อถือทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยสูงสุด
จะขยายสู่ตลาดลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศในปีนี้เป็นต้นไป และล่าสุดเราได้ประกาศจับมือกับ
Central Retail จัดตั้งบริษัทลงทุนในธุรกิจ less-than-truckload
(LTL) delivery หรือการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มาตรฐานระดับโลกเจ้าแรกในไทย
ภายใต้แบรนด์ KERRY XL พร้อมให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ
เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งสำหรับทั้ง 2 ธุรกิจ
จากการตอบสนองต่อผู้บริโภคที่ยังไม่ได้รับการบริการที่ดีด้วยราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีข้อได้เปรียบจากความยืดหยุ่น
และประสิทธิภาพสูงจากโมเดล Hub-and-spoke ที่เป็นเอกลักษณ์ของ KEX โดยบริษัทฯ คาดว่าธุรกิจใหม่นี้จะสร้างรายได้ให้ KEX ในระดับ 20% ตั้งแต่ปี 2566
เป็นต้นไป
“จากความมุ่งมั่นอันแรงกล้าต่อกลยุทธ์ความเป็นผู้นำตลาด
การคัดสรรพันธมิตรทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม และแรงสนับสนุนของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง
เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะครองความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดจัดส่งพัสดุด่วนของประเทศ
และสร้างกำไรในระยะยาวเพื่อผู้มีส่วนได้เสียทุกส่วนอย่างยั่งยืน” นายอเล็กซ์กล่าวปิดท้าย