เมื่อเร็วๆ นี้ นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง “ความร่วมมือ ด้านการอนุรักษ์วิจัย การพัฒนาและขยายธุรกิจด้วยนวัตกรรมสีเขียวเพื่อความยั่งยืน” เพื่อศึกษา วิจัยพัฒนาเกี่ยวกับการขยายธุรกิจด้วยนวัตกรรมสีเขียวต่าง ๆ (Green Initiatives) สำหรับให้บริการผู้ใช้บริการในพื้นที่ต่าง ๆ ของ อสส. รวมทั้งดำเนินโครงการและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อม อัตลักษณ์ชุมชน ตลอดจนพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดระยะเวลา 5 ปี โดยมีนางจงกลนีแก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และนางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจากฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน และนายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีบีจีไอ และ รศ.ดร.วรสัณฑ์ บูรณากาญจน์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ให้เกียรติร่วมพิธี ณ สำนักงานใหญ่บริษัท บางจากฯ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากฯ กล่าวว่า การลงนามระหว่างบางจากฯ และองค์การสวนสัตว์ในครั้งนี้ นอกจากที่
ทั้งสองหน่วยงานจะได้ร่วมมือกันด้านการศึกษา วิจัย และการพัฒนาเพื่อขยายธุรกิจด้วยนวัตกรรมสีเขียวสำหรับให้บริการผู้ใช้บริการในพื้นที่ต่าง ๆ ของ อสส. รวมถึงการดำเนินกิจกรรม โครงการต่าง ๆ ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันแล้ว ในเบื้องต้น บางจากฯ จะร่วมกับองค์การสวนสัตว์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการสร้างสีสันและความสดชื่นต้อนรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่สวนสัตว์ ทดลองนำรถ Mobile อินทนิลไปเปิดจำหน่ายแก่ประชาชนภายในพื้นที่สวนสัตว์เขาเขียว จ.ชลบุรี สวนสัตว์เชียงใหม่และสวนสัตว์นครราชสีมา พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการต่อยอดธุรกิจในพื้นที่ของ อสส.รวมถึงการขยายสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของสมาชิกบัตรบางจากกรีนไมล์สกว่า 5 ล้านรายทั่วประเทศ
ซึ่งไม่เพียงสะสมคะแนนจากยอดเติมน้ำมัน แต่ยังมีส่วนร่วมในโครงการ “ต้นไม้ของคุณ” บนแอปพลิเคชั่น
บางจาก ที่เปิดให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม จากการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันบางจากทุกชนิดที่มีส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ จึงช่วยลดมลภาวะจากการเผาไหม้ได้ดี เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ใหญ่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ
ปัจจุบัน สมาชิกบัตรฯ มียอดสะสมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้น้ำมันบางจาก
เมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกต้นไม้ อยู่ราว 1 ล้านต้นต่อเดือน บางจากฯจึงมีความตั้งใจที่จะแปรยอดสะสมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้สู่การปฏิบัติให้สามารถสร้างพื้นที่สีเขียวได้จริงบนพื้นที่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ กว่า 14,000 ไร่ เพราะหากป่ามีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นย่อมสร้างระบบนิเวศที่ดีต่อการอยู่อาศัยของสัตว์ และเกิดความร่มรื่นเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้เข้าใช้บริการ ทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อนอีกด้วยนอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สำหรับความร่วมมืออื่นๆ อาทิ เชิญชวนสมาชิกบัตรบางจากหรือนักเรียนและเพื่อนบ้านในพื้นที่รอบโรงกลั่นไปเที่ยวชมสวนสัตว์ในจังหวัดต่าง ๆ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ ภาวะโลกร้อน การปลูกป่าเพื่อดูดซับคาร์บอนเป็นต้น
นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเมืองในปัจจุบัน ที่เกิดจากภาวะโลกร้อน ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เช่น ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นจากการขยายตัวทางความร้อนของน้ำในมหาสมุทร และก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากชั้นดินเยือกแข็งส่งผลกระทบต่อป่าไม้ รวมถึงการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่า ที่เกิดความสูญเสียด้านความหลากหลายทางชีวภาพเป็นต้น
องค์การสวนสัตว์จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การยกระดับการเป็นแหล่งเรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่า การอนุรักษ์และการจัดการสวนสัตว์สู่สากล โดยกำหนดเป้าประสงค์ที่พัฒนาองค์ประกอบด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับการเป็นต้นแบบการจัดการสวนสัตว์ และรองรับการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยองค์การฯ มีสินทรัพย์อยู่ 2 อย่าง คือ สัตว์และกายภาพ ลักษณะทางกายภาพขององค์การฯ มีต้นไม้และน้ำ เป็นตัวช่วยลดภาวะโลกร้อนกรอบและทิศทางการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดแนวคิดในการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco Design) เพื่อการอนุรักษ์ และลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วยการสร้างภูมิสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานธรรมชาติให้เข้ากับพื้นที่ โดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน การนำกลับมาใช้ใหม่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สร้างสภาวะน่าสบายให้เกิดขึ้นในพื้นที่สวนสัตว์ และทำให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมกันนี้ ยังมีบรรยายพิเศษ โดย รศ.ดร.วรสัณฑ์ บูรณากาญจน์กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ในหัวข้อ “แนวคิดและนวัตกรรมสีเขียวเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาระบบนิเวศภายในสวนสัตว์” ให้กับผู้เข้าร่วมพิธีภายหลังจากพิธีลงนามเสร็จสิ้น “ความร่วมมือจากทั้ง 2 องค์กรในวันนี้จะเป็นก้าวสำคัญเพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว ซึ่งในระยะต่อไปจะขยายไปสู่การปลูกป่าเพื่อส่งเสริมการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ และมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การได้รับรองคาร์บอนเครดิตของทั้ง 2 ฝ่ายในอนาคตด้วย” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย