อาคเนย์ประกันชีวิต หนึ่งในสายธุรกิจหลักด้านประกันและการเงินไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เผยผลประกอบการ 11 เดือน ปี64 โตต่อเนื่อง ขึ้นแท่นอันดับ 7 ของธุรกิจ มั่นใจฐานะการเงินแข็งแกร่ง ด้วยอัตราเงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์ และอัตราความยั่งยืนของกรมธรรม์สูงถึง 93% จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า
นางภฤตยา สัจจศิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อาคเนย์ประกันชีวิตเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่มีการบริหารงานจัดการแยกออกจากบริษัทอื่นๆ ในเครืออย่างชัดเจนโดยบริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง จากผลการดำเนินงาน 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย. 64) บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 9,881 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 34% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าเป้าหมายธุรกิจที่ตั้งไว้ถึง 125% ขณะเดียวกัน มีอัตราความยั่งยืนของกรมธรรม์ (Persistency rate) ที่ 93% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่81% สำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรก (First Year Premium-FYP) อยู่ที่ 7,887 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 5% สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ มีสภาพคล่องที่ดีและมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงด้วยสินทรัพย์มากกว่า 55,633 ล้านบาท และมีอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุน สูงถึง 236.47% มากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 120% ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 มีอัตราการเติบโตในปีที่ผ่านมาสูงถึง 70% ซึ่งสูงที่สุดในอุตสาหกรรม และก้าวขึ้นเป็นอับดับที่ 7 ของธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย จึงขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า อาคเนย์ประกันชีวิต ยังคงเป็นบริษัทที่มั่นคง สามารถคุ้มครองและจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอนตลอดอายุสัญญากรมธรรม์
"สำหรับแผนกลยุทธ์ 3 ปี (ปี 2565-2567) ตอกย้ำความมุ่งมั่นของอาคเนย์ประกันชีวิตสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อความสุขของลูกค้า คู่ค้า ฝ่ายขาย พนักงาน และผู้ถือหุ้น โดยมุ่งเน้นลงทุนเพิ่มด้านดิจิทัลเทคโนโลยี และบิ๊กดาต้า มาวิเคราะห์พฤติกรรมความต้องการ โดยการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-centric) เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างตอบโจทย์ตรงใจในทุกช่วงวัย เข้าถึงง่าย และคุ้มค่าเงิน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และบริษัทฯ ยังมุ่งส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนชีวิตในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนประกันสุขภาพการวางแผนทางการเงินสำหรับอนาคต และการวางแผนเกษียณอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางภฤตยา กล่าว