กรุงเทพฯ – บมจ. เทคโนเมดิคัล (TM)
เปิดแผนธุรกิจปี 65 ตั้งเป้าดันรายได้แตะ 700-750
ล้านบาท เดินเกมรุกจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง
สำหรับใช้ในห้องผ่าตัดเข้ารพ.รัฐ-เอกชน
และคลินิกต่อเนื่อง จ่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มสมุนไพร และ กลุ่มผู้สูงอายุ เอาใจคนดูแลสุขภาพและผู้สูงอายุ
เล็งเพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่ม OEM ภายใต้แบรนด์ TM รองรับดีมานด์ใหม่ๆ ขณะที่ "TM CARE SHOP" ไม่น้อยหน้าเร่งบุก ตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ หวังดันยอดขายเพิ่ม ด้าน THE
PARENTS เปิดให้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเฟสแรก ภายในQ3/65 สอดรับสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์
นางสุนทรี
จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM เปิดเผยถึงกลยุทธ์แผนดำเนินงานทางธุรกิจสำหรับปี
2565 ว่า ในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเดินเกมรุกในการวาง
กลยุทธ์เจาะตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด
รวมถึงอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านช่องขายทางการตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จากแผนดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2565
เพิ่มขึ้น 5 -10 % หรือประมาณ 700-750 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์
สามารถกลับมาจำหน่ายเข้าโรงพยาบาลรัฐ -เอกชน และ คลินิก ได้เพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัดที่กลับมาฟื้นตัว
และจากเคสผู้ป่วยที่รอรับบริการผ่าตัดโดยเฉลี่ยในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในฐานะที่
TM ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ และ
ได้รับการันตีระดับมาตรฐานสากล จึงมองว่าหลังจากนี้ความต้องการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน
ภายในไตรมาส1/2565 บริษัทฯ เตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆซึ่งเป็นสินค้าประเภทเวชสำอาง
อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ รวมทั้งสินค้าประเภทพืชสมุนไพร และสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ
ทั้งสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯยังวางแผนจ้างผลิต (OEM) ภายใต้แบรนด์ TM อาทิ สินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เช็ดตัวสำหรับผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และผ้าอ้อมผู้สูงอายุ เป็นต้น
เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ
โดยบริษัทฯตั้งเป้ายอดขายจากOEM ในปีนี้ที่ระดับ 50 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 ที่มีรายได้ 30 ล้านบาท
และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ที่ยังคงเป็นตัวแปรหลักของการติดเชื้อไวรัส ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อและผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกัน
มีความต้องการใช้สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อTM ที่ได้รับอานิสงค์จากยอดขายอุปกรณ์ฆ่าเชื้อและปกป้องไวรัสดังกล่าว
อาทิ เจลล้างมือ PURELL, หน้ากาก Life 3D
Surgical Mask, แผ่นเช็ดทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ V-Wipes,
Fresh & Clean 3 in1
สเปรย์ปรับอากาศฆ่าเชื้อโรค (Callington), ผลิตภัณฑ์น้ำยาฆ่าเชื้อ
Netbiokem DSAM+ Hospital Grade Disinfectant น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส
แบคทีเรียโควิด-19 ใช้สำหรับฉีดพ่นเช็ดทำความสะอาด และ น้ำยาฆ่าเชื้อ Netbiokem
เป็นต้น และจากความต้องการผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าว ส่งผลให้ TM
มีแผนในการเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
นอกจากนี้
บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการขายช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้ "TM
CARE SHOP" มากขึ้น โดยล่าสุดได้เริ่มนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายใน www.Lazada.co.th จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีการตจำหน่ายสินค้าผ่าน www.tmcare-shop.com, facebook.com/TMCARESHOP และ Line@ : @tmcareshop เท่านั้น
ในขณะเดียวกันได้เตรียมเพิ่มทีมขาย เพื่อจำหน่ายสินค้าเข้ายังร้านขายยาเวชภัณฑ์มากขึ้น
โดยช่วงแรกจะบุกตลาดในเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล เป็นหลัก นอกจากนี้ยังเตรียมนำผลิตภัณฑ์จากเครือสหพัฒน์
เข้ามาจำหน่ายผ่านช่องทาง TM CARE SHOP ในเร็วๆ นี้
ซึ่งจากความหลากหลายของสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลยุทธ์การเจาะตลาดออนไลน์
ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายจากแพลตฟอร์มดังกล่าวในปีนี้ ที่ระดับ 10 -15
ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
TM ยังได้กล่าวถึงกรณีในปี 2565 ที่ประเทศไทยจะเข้า
สู่ “สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์” โดยจากข้อมูลสถิติจะเห็นได้ว่า ในอัตราร้อยละ
20 ของจำนวนประชากรทั้งหมด คือสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปและจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในทุกๆ ปี จึงเป็นที่มาของ TM ในการเพิ่มไลน์ธุรกิจด้วยการสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางในกรุงเทพมหานคร
(กทม.) ภายใต้โครงการ THE PARENTS โดยล่าสุดด้านความคืบหน้าของการดำเนินการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทาง
"THE PARENTS" นั้น ปัจจุบันศูนย์อบรมการบริบาลผู้สูงอายุได้เปิดรับให้เข้าอบรมแล้ว
โดยสามารถอบรมได้ 160 คนต่อปี
ขณะที่การก่อสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม
2565
โดยจะสามารถเปิดให้บริการในเฟสแรกได้ภายในไตรมาส 3/2565 ขณะที่ความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทาง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ตามแผนในช่วงต้นปี
2565 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบภายในปี
2566 ตามแผนที่วางไว้ ดังนั้นหาก THE PARENTS แล้วเสร็จเต็มรูปแบบ ซึ่งประกอบด้วยอาคาร Nursing Home และอาคาร Rehabilitation Hospital ซึ่งสามารถรองรับผู้ใช้บริการ
150 เตียง
เพื่อรับดูแลผู้สูงอายุทุกภาวะและโรงพยาบาลเฉพาะทาง เช่น การกายภาพฟื้นฟู, การดูแลผู้สูงอายุ และดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต ซึ่งในอนาคตจะผลักดันให้ THE
PARENTS เป็นศูนย์กลาง (Hub) ของภูมิภาคในการให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรทุกมิติ
อย่างไรก็ตามจากแผนขยายธุรกิจดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายจะส่งผลให้บริษัทฯ
ทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้เข้ามาเฉลี่ย 100-150 ล้านต่อปี
โดยรายได้ดังกล่าวเข้ามาชัดเจนตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไปและเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของรายได้ประจำ
(Recurring Income) ให้มีความเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคตให้กับTM