“สามารถ” มั่นใจธุรกิจเติบโต พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 25-27 มกราคม 2565
10 มกราคม 2565 : บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น มั่นใจธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง จากกระแส Digital Transformation และสถานการณ์โควิดคลี่คลาย จึงประกาศความพร้อมในการเสนอขาย “หุ้นกู้ของบริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น ครั้งที่ 1/2565”ให้แก่นักลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2565 โดยหุ้นกู้อายุ 3 ปี ในอัตราดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทมีความประสงค์จะเสนอขายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ผลตอบแทน 4.25% แก่นักลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ในระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2565 โดยมีมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 1,200 ล้านบาท และสำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมมูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าหุ้นกู้ไม่เกิน 1,700 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อใช้ในการไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 7 แห่งได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์และเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
เนื่องจากธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทสามารถเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่หลากหลาย และมีโอกาสเติบโตไปพร้อมๆกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการเร่งเสริมศักยภาพขององค์กรธุรกิจต่างๆ บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสและได้พัฒนา Technology & Business Solutions ต่างๆ เพื่อรองรับโอกาส และการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจในเครือที่เกี่ยวข้องกับสนามบินจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 บ้าง แต่ก็มั่นใจว่าธุรกิจเหล่านั้นจะฟื้นตัวอย่างแน่นอนเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย
“บริษัทฯ จึงเชื่อว่าการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยมีปัจจัยสนับสนุน 4 ประการคือ 1. อายุหุ้นกู้ 3 ปี ไม่ยาวเกินไปและให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ 2. ให้ผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ย 4.25% ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง 3. มีความน่าเชื่อถือโดยบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในเกณฑ์ BBB+ โดยบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 4. บริษัทมีความมั่นคงทางการเงิน และมีศักยภาพในการเติบโตจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการลงทุนภาครัฐ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการให้บริการประชาชนในยุคดิจิทัล อีกทั้งเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย บริษัทก็มีแผนในการนำบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์จำกัด ที่ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมน่านฟ้าประเทศกัมพูชา เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่ได้เคยประกาศไว้” นายธีระชัย กล่าวทิ้งท้าย