คปภ.ย้ำชัด คำสั่งนายทะเบียน 38/2564 เป็นคำสั่งที่ชอบโดยกฎหมาย

คปภ.ย้ำชัด คำสั่งนายทะเบียน 38/2564 เป็นคำสั่งที่ชอบโดยกฎหมายพร้อมยืนหยัด ต่อสู้ ดูแลประโยชน์ผู้เอาประกันและประชาชนให้ได้รับความยุติธรรม

จากกรณี สมาคมประกันวินาศภัยไทย มีมติเอกฉันท์ ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) พิจารณายกเลิกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่องให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัทในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย  เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของทางสำนักงาน คปภซึ่งมีกรอบระยะเวลาพิจารณา 30 วันก่อนที่จะเสนอบอร์ด คปภเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งทีมงานกฎหมายได้ดูข้อมูลแล้วยืนยันว่าเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้มีการย้อนหลังเป็นโทษต่อบริษัทประกันภัยแต่อย่างใด เพราะแม้จะมีข้อความที่ให้สิทธิคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดบอกเลิกโดยต้องแจ้งล่วงหน้าเป็นเวลา 30 วัน ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะสามารถบอกเลิกได้โดยไปอ้างว่ามีความเสี่ยงเปลี่ยนไป หรือจะขาดทุน แล้วบอกเลิกแบบเหมาเข่ง แทนที่จะเลือกวิธีการอื่นที่ไม่เป็นการรอนสิทธิ 

เนื่องจากแนวทางเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่บริสุทธิ์เป็นจำนวนมากโดยผู้เอาประกันภัยมิได้เป็นฝ่ายผิดการตีความสัญญาสำเร็จรูปโดยส่งผลเป็นโทษแก่ผู้บริโภคย่อมเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และไม่เป็นธรรม จึงไม่สามารถทำได้ภายใต้ ...ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมฯ 

นอกจากนี้ ยังขัดต่อหลักการของการประกันภัย โดยที่มีข้อกฎหมายและพยานหลักฐานสนับสนุนชัดเจน โดยรายละเอียดขอไม่เปิดเผยในขณะนี้เพื่อไม่ให้กระทบต่อรูปคดีเพราะทราบว่าทางบริษัทกำลังเตรียมฟ้องสำนักงาน คปภเพื่อจะขอเพิกถอนคำสั่งนี้ และเรียกค่าเสียหาย ถ้าทำได้สำเร็จก็จะกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของประชาชนหลายล้านคน ซึ่งตนและทีมงานของสำนักงาน คปภขอยืนยันว่าจะขอยืนหยัดและสู้เพื่อหลักการ ความถูกต้องและประโยชน์ของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ต่อผลกระทบจากการระบาดของโอไมครอนต่อภาคธุรกิจประกันวินาศภัย ทางสำนักงาน คปภไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการหารือกันเพื่อหามาตรการอื่นเยียวยา โดยที่จะไม่ให้เป็นการรอนสิทธิของผู้บริโภค ทั้งนี้จะมีการหารือกับฝั่งของผู้บริโภคด้วย เพื่อรับฟังเสียงสะท้อน และเพื่อหาทางออกให้เกิดประโยชน์และไม่ขัดต่อกฎหมาย