D คาดการณ์โค้งสุดท้ายของปี 2564 ผลการดำเนินงานพลิกเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ผ่านจุดรุนแรงที่สุดไปแล้ว เชื่อการแพร่ระบาดของสายพันธ์โอมิครอนรอบใหม่ ไม่เลวร้ายถึงขั้นล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ชี้ปี2565การให้บริการทันตกรรมจะเริ่มฟื้นกลับเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ
ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัลคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ D เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ของปี 2564 บริษัทคาดว่าผลการดำเนินน่าจะฟื้นตัวเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งบริษัทประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ผ่านจุดรุนแรงที่สุดไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา และแม้ปัจจุบันจะเริ่มมีการระบาดของสายพันธ์โอมิครอนขึ้นมา แต่เชื่อว่าสถานการณ์คงไม่เลวร้ายถึงขั้นที่ภาครัฐจะมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ และปัจจุบันอัตราการฉีดวัคซีนของคนในประเทศที่มีมากกว่า70% น่าจะเป็นเกราะป้องกันการแพร่ระบาดได้ระดับหนึ่ง
“แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19สายพันธ์ุโอมิครอนระลอกใหม่ แต่มองว่าคงไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา D ก็มีการปรับตัวตั้งรับกับการแพร่ระบาดมาตลอด มีการบริหารจัดการภายใน บริหารต้นทุน จัดการโครงสร้างธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ และต่อจากนี้ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง เราน่าจะรับมืออยู่”ทพ.พรศักดิ์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวต่อว่า การปรับตัวของ D ในช่วงที่ผ่านสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานของบริษัท แม้จะติดลบแต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุดไตรมาส3/2564 บริษัทขาดทุนสุทธิ 4.1ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 ที่ขาดทุนกว่า 16.6 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2564 ที่ขาดทุนสุทธิ 11.1 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างภายในของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินว่าในปี 2565 ความต้องการใช้บริการทันตกรรมในประเทศเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้บริการสะสมจากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการล็อกดาวน์เป็นเวลา 1 ปี นอกจากนี้สภาพสังคมในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับการบริการทันตกรรมเพื่อความงาม ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจของ D