นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงสถานกรณ์ภัยแล้งและแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งว่า ธ.ก.ส.ออกมาตรการเบื้องต้นเพื่อเข้าช่วยเหลือลูกค้าเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งแล้ว ในรูปแบบวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 55,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการใช้จ่ายฉุกเฉิน ครัวเรือนละ50,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในครัวเรือนและป้องกันการก่อหนี้นอกระบบนอกจากนี้และ ยังมีสินเชื่อฉุกเฉินฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบภัยธรรมชาติ หรือภัยพิบัติตามความจำเป็นแต่ไม่เกินรายละ 500,000 บาท คิดดอกเบี้ยดอกเบี้ยMRR-2% ต่อปี กำหนดระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 15 ปี ในเบื้องต้นตนได้สั่งการให้ธ.ก.ส.พื้นที่ลงสำรวจความเสียหายของเกษตรกรทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะสรุปตัวเลขความเสียหายดังกล่าวได้ภายในเดือนม.ค.นี้ และเริ่มจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ภายในเดือนก.พ.
ปัจจุบันลูกค้าเกษตรกรของธ.ก.ส. ในภาคเหนือตอนล่างมีกว่า 300,000 ราย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ1,000,000 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงประสบปัญหาภัยแล้งในทุกๆ ปี แม้ปัจจุบันเกษตรกรไทยจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งจำนวนมากและเป็นภัยแล้งที่เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ แต่เกษตรกรยังไม่ผิดนัดชำระหนี้ให้กับธ.ก.ส.ซึ่งอัตราการชำระหนี้ของเกษตรกรยังสูงถึง 90% ของจำนวนเกษตรกรที่มีหนี้กับธ.ก.ส. ทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าเกษตรกรรายย่อยยังคงมีวินัยในการชำระหนี้ สัดส่วนการชำระหนี้โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยหนี้เสีย(NPL)อยู่ที่ 4.55% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราปกติ