ธ.ก.ส.โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 งวดที่ 1-9 (เพิ่มเติม) และงวดที่ 10 ให้เกษตรกรอีกกว่า 93,000 ครัวเรือน วงเงินกว่า 1,100 ล้านบาท เผยยอดรวมการโอนเงิน งวดที่ 1-10 รวมแล้วกว่า 83,400 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.68 ล้านครัวเรือน
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 และมติที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 เห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 นั้น ซึ่งในวันนี้ (22 ธันวาคม 2564) ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการโอนเงินประกันรายได้ในงวดที่ 1-9 (เพิ่มเติม) พร้อมงวดที่ 10 อีกจำนวน 1,174 ล้านบาท จำนวนเกษตรกร 93,302 ครัวเรือน ซึ่งผลการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 ตั้งแต่งวดที่ 1-10 รวมทั้งหมดจำนวน 83,483 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับประโยชน์แล้ว 4,683,606 ครัวเรือน เทียบกับเป้าหมายรวม 4.69 ล้านครัวเรือน
การประกันรายได้ดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ได้รับผลตอบแทนจากการผลิตที่เหมาะสมเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน และช่วยแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอุทกภัย โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ โดยประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ