SISB ซื้อที่ดินจาก SPALI
ขนาด 24.5 ไร่ จ.ระยอง-รับแผนเปิดรร.นานาชาติแห่งที่ 6
ประเดิมเป็นโรงเรียนนานาชาติทางเลือกแห่งแรก ตั้งเป้าเปิดทำการปี 67
บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) ลงนามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับ บมจ. ศุภาลัย (SPALI) ขนาดพื้นที่ 24.5 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดระยอง เพื่อรองรับแผนการเปิดโรงรียนนานาชาติแห่งที่ 6 ของกลุ่ม SISB ฟากซีอีโอ"ยิว ฮอค โคว" ระบุจะนำไปพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติทางเลือกแห่งแรกเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงโรงเรียนนานาชาติของกลุ่มได้มากขึ้น เตรียมเปิดหลักสูตรการเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยม ตั้งเป้าเปิดการเรียนการสอนได้ภายในปี 67
นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด(มหาชน) SISB เปิดเผยว่า SISB ได้ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับบริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) หรือ SPALI ขนาดพื้นที่ประมาณ 24.5 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดระยอง โดยมีวัตถุประสงค์ของการซื้อที่ดินในครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนการพัฒนาโรงรียนนานาชาติแห่งที่ 6 ของกลุ่ม SISB
ทั้งนี้ บนที่ดินแปลงดังกล่าว บริษัทฯ มีแผนจะพัฒนาเป็นโรงเรียนนานาชาติทางเลือกแห่งแรกโดยบริษัทฯ อยากให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงโรงเรียนนานาชาติของกลุ่มบริษัทฯ ได้เป็นวงกว้าง และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯที่มุ่งนำการศึกษาเข้าถึงคนทุกระดับ "Making Quality Education Accessible to All" ขณะที่โรงเรียนนานาชาติแห่งที่ 6 ในจังหวัดระยองนี้ จะมีหลักสูตรการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษา (เกรด 12) โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเปิดการเรียนการสอนได้ภายในปี 2567
"การซื้อที่ดินในครั้งนี้จะเป็นการรองรับแผนการขยายจำนวนโรงเรียนนานาชาติของกลุ่มบริษัทฯ ตามที่วางแผนไว้ ขณะที่บริษัทฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมเงินทุนไว้แล้วโดยไม่ต้องรบกวนผู้ถือหุ้น ซึ่งคาดว่าโรงเรียนนานาชาติแห่งที่ 6 ในจังหวัดระยอง จะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนนักเรียน และ สนับสนุนการเติบโตได้ในระยะยาว"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า SISB ได้วางเป้าหมายระยะยาวในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนนักเรียนภายในระบบมากกว่า 4,150 คน โดยในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเปิดโรงเรียนนานาชาติแห่งที่ 5 คือ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ นนทบุรี (SISB NR) ตามแผน และในปี 2567 บริษัทฯ เตรียมเปิดโรงเรียนนานาชาติแห่งที่ 6 ในจังหวัดระยอง ที่จะช่วยสนับสนุนให้จำนวนนักเรียนเติบโตได้ตามเป้าหมาย 5 ปี
อย่างไรก็ตาม หากว่ามีโรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่เปิดเพิ่มขึ้นมากกว่าแผนที่วางไว้ ก็น่าจะช่วยทำให้จำนวนนักเรียนในระบบเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายได้อีกด้วย นอกจากนี้บริษัทฯยังมองหาการขยายโรงเรียนไปในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเหมาะสมในการเข้าลงทุน เพื่อที่จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต