ซัคเซสมอร์ SCM กางแผนกลยุทธ์ LEADING CHANGE

ซัคเซสมอร์ (SCM) กางแผนกลยุทธ์ LEADING CHANGE

ชูการบริหารงานภายใต้ แนวทาง ปักธงรายได้ปี 65เติบโตกว่า 50%

บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM ปักธงผลงานปี 65 ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 50% ภายใต้แผนกลยุทธ์ LEADING CHANGE ชูศักยภาพการบริหารงาน ภายใต้ แนวทาง              มุ่งขับเคลื่อนด้วยพลังแบรนด์ การตลาดดิจิทัล ระบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจของลูกค้า รุกสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 7-8 ผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับกระแสเทรนด์รักสุขภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร กล่าวว่า ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในรูปแบบเครือข่าย หรือ Multi-Level Marketing (MLM) โดยแบ่งได้เป็น ธุรกิจหลักได้แก่ 1. ธุรกิจเครือข่ายเพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศและต่างประเทศ 2. ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่ายและรับจัดงานสัมมนา และ 3. ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และโรงงานผลิตสินค้า                     เราดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-level Marketing หรือ MLM) โดยบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท และปัจจุบันมีบริษัทย่อย ทั้งหมด 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ แล็บบอราทอรี่ จำกัด (SML) บริษัท ซัคเซส สปิริต จำกัด (SPT) และ SCM Spirit (Myanmar) Co., Ltd. (SPM) ดำเนินธุรกิจใน 3 ธุรกิจ ได้แก่ธุรกิจแบบเครือข่าย ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย การรับจัดงานสัมมนา และธุรกิจโรงงานผลิตสินค้า ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพ จึงตระหนักถึงปัญหาเรื่องสุขภาพของคนไทย ที่จะทำอย่างไรให้คนไทยหันมาดูแลและใส่ใจในเรื่องสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ 

จากแนวโน้มของตลาดผลิตภัณฑ์ในภาพรวมของบริษัทที่เติบโตมากขึ้น ซัคเซสมอร์ จึงวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นหลากหลายผลิตภัณฑ์ในไตมาตร 3 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันไป โดยกลยุทธ์หลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะเน้นในเรื่องนวัตกรรมและคุณภาพของสินค้าทีมีผลลัพธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างชัดเจนได้แก่ 

1. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Hy Pro Next ด้วยสารสกัดที่มาจากโปรตีนพืช มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมีกรดอะมิโนจําเป็นหลายชนิด ดูดซึมง่าย ให้พลังงานและแคลอรี่ต่ำ ปราศจากคอเลสเตอรอล ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพหลักที่พบในวัย 40+ ที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพให้แข็งแรงประกอบด้วยโปรตีนพืช 4 ชนิด ที่สามารถดูดซึมได้เร็ว 

2. ผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์ เซ็ท S MONE’ HEMP SEED OILประกอบด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ น้ำตบ เซรั่ม ครีม ซึ่งใช้สารสกัดหลักจาก HEMP SEED OIL (น้ำมันจากเมล็ดกัญชง) ประกอบด้วยสาร CBD (Cannabidiol) ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันโอเมก้า 3, 6, 9 และวิตามินอี บี บีบีที่มีประโยชน์ต่อผิว มีคุณสมบัติหลักช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์

3. ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร Transform soil เป็นผลิตภัณฑ์ปรับปรุงดิน ช่วยฟื้นฟูดินเสีย ปรับสภาพดิน เพิ่มธาตุอาหารในดิน พืชดูดซึมได้ดี ออแกนิค 100% สูตรเข้มข้น ปลอดภัย ไร้สารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ โดยแตกไลน์สินค้าเพิ่มเติมจากสินค้าที่มีอยู่แล้ว รายการ คือผลิตภัณฑ์ Transform Plus ธาตุอาหารรองเสริมพืชที่ใช้ในการฉีดพ่นทางใบ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแบบครบวงจร 

และในเดือนธันวาคมนี้ เรามีผลิตภัณฑ์อีก 2 รายการ ที่จะเปิดตัวเพิ่มอีก ซึ่ง เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

• Nutriga Canza (เสริมอาหารป้องกันมะเร็ง) 
• Nutriga Su-rin (เสริมอาหารป้องกันเบาหวาน) 

ผลิตภัณฑ์ รายการนี้ จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โภชนบำบัด หรือ นูทราซูคิคอล (Nutrition + Pharmaceuticals) คือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากอาหารที่ผ่านการสกัดหรือแยกเป็นสารบริสุทธิ์ ที่มีสรรพคุณคล้ายยา ช่วยป้องกันโรค ฟื้นฟูโรค และชะลอความชรา และกำลังเป็นกระแสสุขภาพใหม่ของโลก เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมาก และมีผลงานวิจัยหลายงานวิจัยรองรับ ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยสนับสนุนยอดขายในไตรมาส นี้และปีหน้า

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเน้นกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ในด้านการดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถกระตุ้นการบริโภคของลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การเติบโตของรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ ทั้งประเทศกัมพูชาและสิงคโปร์มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่กัมพูชามียอดขายเติบโตจากการที่ตราสินค้าของบริษัทฯ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นายแพทย์สิทธวีร์ กล่าว

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในงวด เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการบริการรวม 873.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.90 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านนักธุรกิจ 791.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 85.3 และรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย 68.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.4 ทั้งนี้ เป็นผลจากยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และเป็นผลเติบโตในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทางการเกษตรที่เติบโตถึงร้อยละ 191

ขณะที่กำไรสุทธิในงวด เดือนแรกของปี 2564 ทำได้อยู่ที่ 149.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 299.2               เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.5 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ดีขึ้น 

และในปี 2565 บริษัท ตั้งเป้ารายได้ติบโตมากกว่า 50% ภายใต้ธีม LEADING CHANGE 2022 การนำสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งมุ่งเน้นในการขับเคลื่อนด้วยพลังแบรนด์ การตลาดดิจิทัล ระบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจของลูกค้า ผ่านการเติบโตในประเทศและต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์สร้างการเติบโต 4 กลยุทธ์ด้วยกัน คือ

1.Leverage Brand Energy การยกระดับพลังแบรนด์องค์กรและสินค้าให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและลึกขึ้นตลอดจนการสร้างแบรนด์เลิฟเวอร์อย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าขยายฐานสมาชิกแตะระดับ 150,000 ราย จากปัจจุบัน 120,000 ราย และหากรวมดีลเลอร์จากต่างประเทศ ทำให้ยอดรวมขึ้นสู่ 250,000 ราย

2.Driving Digital การขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลในทุกๆ ฝ่ายงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ                 และประสิทธิผลในการทำงานและเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการขยายตลาด Leading Change 2022 

3.Create Online & Offline Breakthrough System การสร้างและผสมผสานระบบ Online                 และ Offline ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อรองรับและเติมเต็มจุดอ่อนจุดแข็งของ ทั้ง 2 ระบบด้วยการยกธุรกิจมาไว้ในมือถือ ผ่านแอปพลิเคชั่น SCM CONNEXT เพื่อเชื่อมต่อสายงานที่มาพร้อมกับฟังก์ชันในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่มีระบบซื้อขายออนไลน์ 100% มาพร้อมกับ Payment Gateway & Tracking order New Register & Sponsor link ฟังก์ชันที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ขยายธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ 100%

4.Customer Experience Management การบริหารจัดการและร่วมสร้างประสบการณ์ที่ดี                 ต่อแบรนด์ของลูกค้า

 

 

ในตลาดต่างประเทศปัจจุบัน ประเทศที่มีโมเมนตัมดีของเราคือ ประเทศกัมพูชา เติบโตกว่า 100%                        และตามมาด้วยประเทศสิงคโปร์และมาเลเชีย เติบโตกว่า 50% ร้อมกันนี้บริษัทฯ วางแผนขยายไปในโซนยุโรปอย่างต่อเนื่องภายในปี 2565 พื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการขยายตลาด รองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค โดยใช้จุดแข็งของไทยตอบรับ เทรนด์สุขภาพของโลก พร้อมปรับกลยุทธ์ในตลาดต่างประเทศนั้น เราใช้กลยุทธ์ Local Marketing โดยการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและการแข่งขันในตลาดแต่ละประเทศ ที่เชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกัน พร้อมผลักดัน สินค้า Flagship และพัฒนา digital platform และระบบบริหารฐานข้อมูลครบวงจร เสริมด้วยโปรโมชั่นที่จูงใจพร้อมการสื่อสารควบคู่กันไป

เรามีวิสัยทัศน์ที่สำคัญคือการเป็นเครือข่ายแห่งการสร้างความสำเร็จ ความสุข และการบรรลุจุดมุ่งหมายแห่งตน ซึ่งปัจจัยความสำเร็จในปี 65 มาจากความสามารถของบุคลากรภายในและนักธุรกิจที่ยกระดับขึ้นจนสามารถแข่งขันได้ รวมถึงการยกระดับเทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารงาน การให้บริการลูกค้าและการมีเครื่องมือดิจิทัลและบริหารการตลาดดิจิทัลที่ช่วยขยายตลาดได้ และการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ได้ผลทั่วทั้งองค์กร ซึ่งรวมถึงทีมนักธุรกิจด้วยพลังคุณค่าของแบรนด์ที่ชัดเจนและการสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ ยอมรับและสนับสนุนจากกลุ่มคนที่อยู่ในตำแหน่งวางของแบรนด์ จนถึงขั้นเกิดแบรนด์และโปรดักส์เลิฟเวอร์จำนวนมาก พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้แก่นักธุรกิจและลูกค้าได้อย่างคงเส้นคงวาในทุกๆ จุดสัมผัสกับแบรนด์” นายนพกฤษฏิ์ กล่าวทิ้งทาย