11 ปี “สมาคมเพื่อนชุมชน” เดินหน้าสู่ระยองเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรมผนึกรัฐมุ่งพัฒนาเมืองอุตฯเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน

สมาคมเพื่อนชุมชน” ต้นแบบความร่วมมือของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมแห่งแรกในประเทศไทย ประกาศความร่วมมือปีที่ 11 เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนระยองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน พร้อมแต่งตั้งนายกสมาคมเพื่อนชุมชนคนใหม่ “นายมงคล เฮงโรจนโสภณ”  แทนนายวริทธิ์ นามวงษ์ ซึ่งครบวาระ  ทั้งนี้ สมาคมเพื่อนชุมชน จะยังเดินหน้าร่วมกับทุกภาคส่วนในการนำจังหวัดระยองก้าวสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับสูงสุด และเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลด้านเศรษฐกิจสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม หนุนนโยบายรัฐลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์  มุ่งยกระดับแก้ไขปัญหาสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนอกจากนี้ ยังพร้อมยกระดับความช่วยเหลือทั้งในช่วงสถานการณ์โควิด 19 และในระยะฟื้นฟู


สมาคมเพื่อนชุมชน หรือ CPA (Community Partnership Association)  ก่อตั้งจากความร่วมมือของ 5 กลุ่มบริษัท ได้แก่ กลุ่ม ปตทเอสซีจี  บีแอลซีพี  กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย(Dow) จีพีเอสซี (เดิม คือ Glow) โดยปัจจุบัน มีสมาชิกสมทบอีก 12 บริษัท รวมเป็นบริษัทสมาชิกทั้งหมด17 กลุ่มบริษัท การดำเนินงานของสมาคมเพื่อนชุมชน ตลอดระยะเวลา11 ปี ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ปี ที่ 12 นั้น นับเป็นความร่วมมือของกลุ่มผู้ประกอบการและเครือข่ายสมาชิก ที่มีเป้าหมายเดียวกันที่จะขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ  สังคม และการดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนระยอง  พร้อมร่วมกันพัฒนา  .ระยอง สู่การเป็นเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม  โดยเน้นให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยมีแนวคิดCare Together ใส่ใจกันและกันตามที่สมาคมเพื่อนชุมชนยึดมั่นมาตลอด 11 ปี 


นายวริทธิ์ นามวงษ์ อดีตนายกสมาคมเพื่อนชุมชน กล่าวว่า “ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วนเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด 19  สมาคมเพื่อนชุมชน จึงยกระดับแผนงานด้านสาธารณสุขให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อบรรเทาปัญหาและความเดือนร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด 19   โดยได้มีส่วนสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ในการดูแลประชาชน .ระยอง โดยสมาคมเพื่อนชุมชนและบริษัทสมาชิก ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 62 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และชุมชนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตั้งแต่ ปี2554  จนถึงปัจจุบัน ยังได้ส่งเสริมให้จังหวัดระยองมีบุคคลกรทางการแพทย์ที่เพียงพอต่อจำนวนประชาชน  โดยได้มอบทุนพยาบาลเพื่อนชุมชนไปแล้วกว่า 440 ทุน รวม 7 รุ่น ซึ่งผู้ที่สำเร็จการศึกษาได้เข้าปฎิบัติงานในโรงพยาบาลรวม 9  แห่ง ในจ.ระยอง ”

 “แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด 19 แต่สมาคมเพื่อนชุมชน ยังเดินหน้าขับเคลื่อนการทำงานในมิติด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาปรับใช้กับการดำเนินกิจกรรมต่าง  เพื่อให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ เช่น มิติเศรษฐกิจ เสริมสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งปัจจุบัน ได้พัฒนาไปแล้ว 43 กลุ่ม สามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าชุมชน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ กว่า 60 ล้านบาท  มิติสังคม ส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชน โดยจัดทำโครงการเพื่อนชุมชนติวเตอร์ โดย 5 ปีที่ผ่านมา มีนักเรียนเข้าร่วมกว่า 27,000 คนสามารถทำคะแนนสอบ O-NET  ได้ขึ้นชั้นคะแนนสูงสุด ติด 1 ใน 5 ของประเทศ  มิติด้านสิ่งแวดล้อม  พัฒนาโมเดล จากการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อจัดการคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะ  โดยชูโมเดลนำร่องทำโครงการคลองน้ำหู เพื่อร่วมกันดูแลคุณภาพน้ำ และฟื้นฟูระบบนิเวศในคลอง”  นายวริทธิ์ นามวงษ์ อดีตนายกสมาคมเพื่อนชุมชนกล่าว

ด้านนายมงคล เฮงโรจนโสภณ  นายกสมาคมเพื่อนชุมชนคนใหม่กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานของสมาคมเพื่อนชุมชนในระยะต่อไป  ยังคงร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนระยองให้ก้าวสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ 5 (Happiness ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด  โดยปี 2564 ได้มีการประเมินผลเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในเขตมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ซึ่งยังสามารถรักษาระดับการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ 4 ได้ตามเป้าหมาย  นอกจากนี้ ยังจะยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050  และบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ในปี 2065  ซึ่งสมาคมเพื่อนชุมชนจะร่วมเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนเพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ .ระยอง หลังการแพร่ระบาดโควิด 19  โดยการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พร้อมกับวางแผนการดำเนินงานต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ (Next Normal) และต่อยอดโครงการเดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป