เมื่อเดินกันยายนที่ผ่านมา ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. หรือ TAT) ได้มีการประกาศเตรียมที่จะสร้างเหรียญ “TAT Coin” เป็นของตัวเอง เพื่อที่จะได้วางกลยุทธ์ใหม่ภายใต้การท่องเที่ยวแบบ “Cryptourism” โดยหวังที่จะให้นักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างชาติเข้ามา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย
.
คุณท็อป จิรายุส ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Bitkub ได้กล่าวว่า ปัจจุบัน GDP ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์ แต่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์
.
อีกทั้งกล่าวเสริมว่า อัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงของตลาดนี้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุน แต่นักลงทุนกลุ่มนี้อาจจะเป็นกลุ่มที่ Potential สำหรับการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากเทคโนโลยีทางการเงินจะช่วยให้พวกเขาทำงานจากระยะไกลได้จากทุกที่ และรับเงินผ่านธุรกรรมบนเทคโนโลยีบล็อคเชน ซึ่งไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและมีต้นทุนต่ำกว่าการเงินแบบเดิม
.
คุณท็อป จิรายุส กล่าวในงานสัมนา "Transform Tourism with cryptourism" ว่า “ภาคเอกชนพร้อมที่จะให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล แต่เราเพียงแค่รอให้รัฐบาลกดปุ่มโดยการออกกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ หรือแม้แต่นโยบายเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่ง GDP ของประเทศเราสามารถเติบโตได้ 6 เท่า ถ้าเราสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับตลาดนี้ได้”
.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่านโยบายการท่องเที่ยวดิจิทัลมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ขาดแคลนเงินสดซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 เนื่องจากพวกเขาพยายามดิ้นรนเพื่อเข้าถึงความช่วยเหลือทางการเงินจากแหล่งการเงินแบบดั้งเดิม โดยทาง ททท. กำลังอยู่ในขั้นตอนของการสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้กลุ่มคนมีฐานะ รวมไปถึงผู้ถือสกุลเงินดิจิทัล สามารถโอนเงินไปยังผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยตรงแบบไม่ต้องมีตัวแทนหรือนายหน้า
.
เนื่องจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดกลาง พวกเขาส่วนใหญ่มีความรับผิดชอบที่จำกัด ดังนั้น ททท. สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันโดยการออก Utility Token และสรรหาโรงแรมพันธมิตรเพื่อจัดสรรโควตาห้องพักของพวกเขาเป็นโทเค็นที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์
.
ตอนนี้ ททท. กำลังหารือเพิ่มเติมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเหรียญ ททท. (TAT Coin) ซึ่งเป็น Utility Token ที่สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ เนื่องจาก ททท. นั้นเป็นรัฐวิสาหกิจ มีกฎระเบียบต่างๆที่ ททท. จำเป็นต้องหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการ และยังมีมาตรการป้องกันอื่น ๆ ต่ออาชญากรรมไซเบอร์และการคุ้มครองลูกค้าที่ ททท. จำเป็นต้องเตรียมการ

อ้างอิง: https://www.bangkokpost.com/.../tat-urged-to-target-rich...