SCN เดินเครื่องปั๊มผลงานส่งท้ายปี 64 หลังชนะประมูลงานรับจ้างขนส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ทางรถยนต์ กับ ปตท. รับสัญญารวมมูลค่า 178.8 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นผู้นำ NGV ในเอเชีย ดันภาพรวมผลประกอบการทั้งปีเติบโตเกินเป้า สวนวิกฤตโควิด-19

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พลังงานทดแทน และขนส่งแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้รับคัดเลือกจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ขนส่งก๊าซธรรมชาติในสัญญาจ้างขนส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ทางรถยนต์ (Third Party Logistics - TPL) ในพื้นที่สถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน (Private Mother Station - PMS) สามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ด้วยวงเงินการจ้าง 93.8 ล้านบาท ระยะเวลาสัญญา 2 ปี เริ่มขนส่งตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2566 รวมเป็น 14 ปีที่ SCN ได้รับการคัดเลือกเป็นคู่สัญญา TPL กับ ปตท. มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นสัญญาขนส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ทางรถยนต์ (NGV) ฉบับที่ 2 ของปีนี้ หลังจากคว้าสัญญาขนส่ง NGV ให้กับ สถานีก๊าซธรรมชาติหลัก ปตท. ลาดหลุมแก้ว เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าสัญญา 85 ล้านบาท ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทมีสัญญาขนส่งก๊าซธรรมชาติ NGV ในมือกว่า 178.8 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญของการผลิตและให้บริการ NGV สมกับที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจ NGV ของไทย

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ บริษัทพร้อมเพิ่มสัดส่วนพอร์ตธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรม ทั้ง LNG และ CNG ตามความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน รวมทั้งเตรียมวางแผนเพิ่มหางลากรถขนส่งและบุคลากร รองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเตรียมพร้อมเข้าร่วมยื่นประมูลงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน ที่คาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมบรรยากาศการลงทุนของประเทศและถือเป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมธุรกิจ SCN ในไตรมาส 4/2564 ให้กลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น

ดร.ฤทธี กล่าวว่า บริษัทมั่นใจกลุ่มธุรกิจขนส่งยังคงสร้างผลงานได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนรถขนส่งที่พร้อมให้บริการกว่า 285 คัน อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทในเครือ บริษัท สแกน อินเตอร์ โลจิสติกส์ จำกัด หรือ SILOG ที่ดำเนินการเป็นผู้ให้บริการขนส่งก๊าซธรรมชาติ ขนส่งทางบกประเภทวัตถุอันตรายในกลุ่มปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ พร้อมทั้งงานขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ประกอบกับศักยภาพของบุคลากร และกลยุทธ์การดำเนินงานที่วางแผนมาเป็นอย่างดี โดยมั่นใจว่าธุรกิจกลุ่มขนส่งจะสามารถทำรายได้แตะ New High ที่ 200 ล้านบาท หรือเติบโต 24% จากปีก่อนตามที่คาดการณ์ไว้ แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

“บริษัทยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ในการบริหารงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเดินหน้าประมูลงานโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสการรับงานใหม่ๆ ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต” ดร.ฤทธี กล่าว